
คุณเคยสงสัยไหมว่าทำไมบางคนสามารถนำเพลงของผู้อื่นมาร้อง หรือเผยแพร่ผ่านช่องทางต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นช่องทางออฟไลน์หรือออนไลน์ได้ โดยที่ไม่โดนเรียกเก็บค่าลิขสิทธิ์ หรือโดนเจ้าของผลงานแจ้งตำรวจจับ ทั้ง ๆ ที่น่าจะเป็นการกระทำที่เข้าข่ายการละเมิดลิขสิทธิ์?
นั่นอาจเป็นเพราะสิ่งที่พวกเขาทำนั้นเข้าข้อยกเว้นการละเมิดลิขสิทธิ์นั่นเอง ก่อนอื่นเพื่อให้ทุกท่านอ่านบทความนี้ได้เข้าใจมากยิ่งขึ้น เราขอแนะนำให้ทำความรู้จักกับคำว่า “ข้อกำหนด” และ “ข้อยกเว้นการละเมิดลิขสิทธิ์” เสียก่อน
“ข้อกำหนด” คือ มาตรการที่กำหนดให้ผู้ที่ใช้ผลงานเพลงอันมีลิขสิทธิ์ของผู้อื่น ต้องจ่ายค่าตอบแทนให้กับองค์กรจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์เพลง (Collective Management Organizations: CMO) สามารถดูรายชื่อองค์กรจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์เพลงปี 2567 ในประเทศไทยได้เพิ่มเติมที่นี่
“ข้อยกเว้นการละเมิดลิขสิทธิ์” คือ ข้อยกเว้นของข้อกำหนดข้างต้น กล่าวคือ ถ้าเราใช้เพลงอันมีลิขสิทธิ์ของผู้อื่นโดยเข้าข่ายข้อยกเว้น ก็ไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าตอบแทนตามข้อกำหนดที่ว่ามานั่นเอง โดยปกติแล้ว การใช้ผลงานที่มีลิขสิทธิ์ของผู้อื่นจำเป็นต้องมีการชำระค่าตอบแทนแก่เจ้าของลิขสิทธิ์ อย่างไรก็ตาม หากการใช้งานดังกล่าวอยู่ภายใต้ข้อยกเว้นทางกฎหมาย ก็ไม่จำเป็นต้องชำระค่าตอบแทน และไม่ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย
"Fair use" หรือ "Fair dealing" คืออะไร?
ชื่อเรียกของข้อกำหนดและข้อยกเว้นการละเมิดลิขสิทธิ์ในแต่ละประเทศนั้นแตกต่างกันออกไป แต่ในระดับสากล คำที่คนนิยมใช้เรียกข้อยกเว้นการละเมิดลิขสิทธิ์ คือคำว่า “Fair use” หรือ “Fair dealing” หมายถึง การใช้ลิขสิทธิ์ของผู้อื่นโดยชอบ ซึ่งบางประเทศก็มีกำหนดไว้ในกฎหมายลิขสิทธิ์เป็นลายลักษณ์อักษรไปเลย แต่บางประเทศก็อาจจะมีทั้งการบัญญัติไว้ในกฎหมาย และใช้หลักเกณฑ์ทั่วไปที่กลั่นกรองมาจากแนวคำพิพากษาหรือการตีความของศาล โดยกรณีนี้จะพบได้ในประเทศที่ใช้ระบบกฎหมายจารีตประเพณี (Common Law) นั่นเอง
Fair Use หรือ การใช้งานลิขสิทธิ์ที่เป็นธรรม เป็นแนวคิดทางกฎหมายที่อนุญาตให้บุคคลสามารถใช้งานเนื้อหาที่มีลิขสิทธิ์ได้โดยไม่ต้องขออนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ ภายใต้เงื่อนไขบางประการ โดยมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนการพัฒนาความรู้ การแสดงความคิดเห็น และการสร้างสรรค์ใหม่ ๆ ในสังคม สำหรับประเทศไทย ได้มีการบัญญัติหลักของการใช้ลิขสิทธิ์ที่เป็นธรรม (Fair use) ไว้ใน พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 มาตรา 32 ดังนี้
มาตรา 32 การกระทำแก่งานอันมีลิขสิทธิ์ของบุคคลอื่นตามพระราชบัญญัตินี้ หากไม่ขัดต่อการแสวงหาประโยชน์จากงานอันมีลิขสิทธิ์ตามปกติของเจ้าของลิขสิทธิ์และไม่กระทบกระเทือนถึงสิทธิอันชอบด้วยกฎหมายของเจ้าของลิขสิทธิ์เกินสมควร มิให้ถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์
ภายใต้บังคับบทบัญญัติในวรรคหนึ่ง การกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งแก่งานอันมีลิขสิทธิ์ตามวรรคหนึ่ง มิให้ถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ ถ้าได้กระทำดังต่อไปนี้
(1) วิจัยหรือศึกษางานนั้น อันมิใช่การกระทำเพื่อหากำไร
(2) ใช้เพื่อประโยชน์ของตนเอง หรือเพื่อประโยชน์ของตนเองและบุคคลอื่นในครอบครัวหรือญาติสนิท
(3) ติชม วิจารณ์ หรือแนะนำผลงานโดยมีการรับรู้ถึงความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในงานนั้น
(4) เสนอรายงานข่าวทางสื่อสารมวลชนโดยมีการรับรู้ถึงความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในงานนั้น
(5) ทำซ้ำ ดัดแปลง นำออกแสดง หรือทำให้ปรากฏ เพื่อประโยชน์ในการพิจารณาของศาลหรือเจ้าพนักงานซึ่งมีอำนาจ ตามกฎหมาย หรือในการรายงานผลการพิจารณาดังกล่าว
(6) ทำซ้ำ ดัดแปลง นำออกแสดง หรือทำให้ปรากฏโดยผู้สอน เพื่อประโยชน์ในการสอนของตนอันมิใช่การกระทำเพื่อหา กำไร
(7) ทำซ้ำ ดัดแปลงบางส่วนของงาน หรือตัดทอนหรือทำบทสรุปโดยผู้สอนหรือสถาบันศึกษา เพื่อแจกจ่ายหรือจำหน่าย แก่ผู้เรียนในชั้นเรียนหรือในสถาบันศึกษา ทั้งนี้ ต้องไม่เป็นการกระทำเพื่อหากำไร
(8) นำงานนั้นมาใช้เป็นส่วนหนึ่งในการถามและตอบในการสอบ
ข้อควรระวัง
แม้ว่าข้อยกเว้นการละเมิดลิขสิทธิ์จะสามารถนำมาใช้อ้างได้ว่าเราใช้ลิขสิทธิ์ของผู้อื่นโดยชอบ ดังนั้นแม้ไม่เสียค่าลิขสิทธิ์ก็ไม่ผิดกฎหมาย แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะตัดสินว่าการใช้งานในกรณีใดจะเข้าเกณฑ์ข้อยกเว้นการละเมิดลิขสิทธิ์ ดังนั้นจึงดีที่สุดที่จะขอคำปรึกษาทางกฎหมายจากผู้ที่เชี่ยวชาญและเชื่อถือได้ หากการใช้งานไม่เข้าข่ายข้อยกเว้น จะต้องขอใบอนุญาตเพื่อใช้ผลงานดนตรีหรืองานสิ่งบันทึกเสียง รวมถึงในกรณีที่การใช้งานนั้นเข้าข่ายข้อกำหนดซึ่งต้องชำระค่าตอบแทนแก่เจ้าของลิขสิทธิ์นั่นเอง
ใครสามารถอ้างสิทธิ์ข้อยกเว้นการละเมิดลิขสิทธิ์ได้บ้าง ?
ผู้ใช้ผลงานดนตรีหรืองานสิ่งบันทึกเสียงทุกคนสามารถอ้างสิทธิ์ข้อยกเว้นการละเมิดลิขสิทธิ์ได้ เมื่อมีเงื่อนไขที่สอดคล้องกับข้อยกเว้นนั้น ตัวอย่างเช่น ข้อยกเว้นอาจอนุญาตให้บุคคลหรือองค์กรใช้ดนตรีเพื่อวัตถุประสงค์ที่ไม่แสวงหากำไรภายใต้เงื่อนไขบางประการ อาทิ ในบริบทส่วนตัวหรือเพื่อการศึกษา
ข้อกำหนดหรือข้อยกเว้นการละเมิดลิขสิทธิ์ยังเป็นประโยชน์ต่อผู้สร้างสรรค์ในบางกรณี ตัวอย่างเช่น นักแต่งเพลงสามารถนำทำนองหรือคำร้องจากผลงานของตนเองที่มีอยู่แล้วมาอ้างอิงได้โดยไม่ต้องขออนุญาต ตราบเท่าที่ไม่ใช่การคัดลอกหรือใช้ผลงานนั้นเกินสมควร และต้องให้เครดิตแก่ผู้แต่งผลงานที่ถูกอ้างอิง
ตามกฎหมายลิขสิทธิ์ไทย การกระทำใดแม้เข้าข่ายเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ แต่เข้าข้อยกเว้นตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ให้ถือว่าการกระทำดังกล่าวไม่เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ สามารถศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ได้ที่นี่
อ้างอิงข้อมูลจาก https://goclip.org/en/music/scope-of-protection/What-are-copyright-and-related-rights-limitations-and-exceptions
ติดต่อทีมลิขสิทธิ์เเละเครื่องหมายการค้า :
โทร : 02-011-7161 ติดต่อ 101
E-mail : [email protected]
เปิดทำการวันจันทร์ – วันเสาร์ เวลา 09:00 – 18:00 น