OUR BLOG

ชื่อซ้ำทำแบรนด์สะเทือน ย้ำความสำคัญของเครื่องหมายการค้า

จดทะเบียนเตรื่องหมายการค้ากับเครื่องมือแพทย์ (72)

สืบเนื่องจากประเด็นดราม่ากรณี อินฟลูเอนเซอร์รายหนึ่งใช้ชื่อเครื่องหมายการค้า “ชาบูเถ้าแก่น้อย” จนทำให้ประชาชนบางส่วนเกิดความเข้าใจผิดคิดว่าเป็นแบรนด์เดียวกันกับ “สาหร่ายเถ้าแก่น้อย”  เพื่อป้องกันความสับสนบริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ต ติ้ง จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายขนมขบเคี้ยวสาหร่ายภายใต้แบรนด์ “เถ้าแก่น้อย” ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงว่า บริษัทฯ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ “ร้านชาบูเถ้าแก่น้อย” ที่กำลังเป็นประเด็นในสื่อสังคมออนไลน์ขณะนี้ 

471818129 892423436430630 5060939350123252103 n

จากข้อมูลการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า ทางบริษัท เถ้าแก่น้อยฯ ได้มีการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าที่ครอบคลุมกับธุรกิจของตนไว้ทั้งสินค้าและบริการ (ทั้งชื่อภาษาไทยและภาษาอังกฤษ) ยังรวมถึงบริการร้านอาหารด้วย ซึ่งการที่บุคคลอื่นนำเครื่องหมายที่ตนได้จดทะเบียนไว้ไปใช้โดยไม่รับอนุญาต ถือว่าเป็นการละเมิดเครื่องหมายมีโทษตามกฎหมาย เจ้าของเครื่องหมายที่จดทะเบียนไว้มีสิทธิดำเนินการต่อผู้ละเมิดเครื่องหมายการค้าได้ หากทำให้ผู้บริโภคเกิดความเข้าใจและส่งเสียต่อภาพลักษณ์ต่อแบรนด์ตนจากเหตุการณ์นี้ ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการปกป้องเครื่องหมายการค้าและการสื่อสารที่ชัดเจนเพื่อป้องกันความเข้าใจผิดที่อาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และธุรกิจของบริษัท การจดเครื่องหมายการค้าจึงเป็นเรื่องสำคัญยิ่งสำหรับเจ้าของธุรกิจ

ทำไมการจดเครื่องหมายการค้าถึงสำคัญล่ะ?

1.ป้องกันการลอกเลียนแบบ

เมื่อคุณสร้างชื่อแบรนด์หรือโลโก้ที่เป็นเอกลักษณ์ โอกาสที่คนอื่นจะนำชื่อหรือสัญลักษณ์ของคุณไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตมีสูง หากไม่มีการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า คุณอาจเสียสิทธิ์ในการปกป้องชื่อแบรนด์ของคุณอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

2.ลดความเสี่ยงต่อชื่อเสียง

การที่คนอื่นนำชื่อหรือโลโก้ของคุณไปใช้ อาจนำไปสู่การสร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงของธุรกิจ หากผู้ใช้รายอื่นนำชื่อของคุณไปทำสิ่งที่ขัดต่อมาตรฐานหรือไม่เหมาะสม ลูกค้าอาจสับสนและมองว่าคุณมีส่วนเกี่ยวข้อง

3.สร้างความน่าเชื่อถือให้ธุรกิจ

การมีเครื่องหมายการค้าที่จดทะเบียนแล้วช่วยแสดงให้เห็นว่าธุรกิจของคุณมีความเป็นมืออาชีพ และใส่ใจในทรัพย์สินทางปัญญาของตัวเองนอกจากนี้ยังสร้างความมั่นใจให้กับคู่ค้าและลูกค้าว่าคุณให้ความสำคัญกับการปกป้องแบรนด์ของคุณ

4.สิทธิพิเศษทางกฎหมาย

การจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าช่วยให้คุณมีสิทธิ์ตามกฎหมายในการดำเนินคดีกับผู้ที่ละเมิดสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นการลอกเลียนแบบชื่อ โลโก้ หรือสัญลักษณ์ทางการค้า

ขั้นตอนการจดเครื่องหมายการค้าทำอย่างไร?

1.ตรวจสอบความเหมือนคล้าย

ตรวจสอบว่าเครื่องหมายการค้าของคุณไม่เหมือนหรือคล้ายกับของผู้อื่นที่จดทะเบียนไว้แล้ว เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาทางกฎหมายในอนาคต

2.ยื่นคำขอจดทะเบียน

เตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้อง เช่น รูปแบบเครื่องหมายการค้า คำอธิบาย และรายละเอียดของผู้ยื่นคำขอ

3.ตรวจสอบโดยกรมทรัพย์สินทางปัญญา 

หน่วยงานที่ดูแลจะตรวจสอบคำขอและพิจารณาว่าเครื่องหมายของคุณสามารถจดทะเบียนได้หรือไม่

4.ประกาศโฆษณาและคัดค้าน (ถ้ามี)

หลังการตรวจสอบ เครื่องหมายการค้าจะถูกประกาศโฆษณาเพื่อเปิดโอกาสให้บุคคลอื่นคัดค้าน หากไม่มีการคัดค้าน คุณจะได้รับการจดทะเบียน

3 ข้อแนะนำสำหรับผู้ประกอบการ

เลือกชื่อและสัญลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์

ชื่อหรือโลโก้ที่จดจำง่ายและไม่ซ้ำใครช่วยให้แบรนด์ของคุณโดดเด่นและจดจำได้ง่าย

ศึกษากฏหมายและข้อกำหนดในประเทศ

เนื่องจากกฎหมายเครื่องหมายการค้าในแต่ละประเทศมีความแตกต่างกัน การศึกษากฎระเบียบและขั้นตอนจะช่วยให้กระบวนการดำเนินไปอย่างราบรื่น

ขยายการจดทะเบียนไปยังต่างประเทศ

หากธุรกิจของคุณมีแผนที่จะขยายตลาดไปยังประเทศอื่น การจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในประเทศเป้าหมายเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม

สรุป

การจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าเป็นการลงทุนที่ช่วยปกป้องธุรกิจและสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า อย่าปล่อยให้คู่แข่งหรือผู้ไม่หวังดีใช้ชื่อแบรนด์ของคุณโดยไม่ได้รับอนุญาต เพราะนอกจากจะทำให้สูญเสียรายได้แล้ว ยังอาจกระทบต่อชื่อเสียงที่คุณสร้างมานานอีกด้วยหากคุณกำลังมองหาความช่วยเหลือเกี่ยวกับการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า ติดต่อผู้เชี่ยวชาญด้านทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อให้คำแนะนำที่เหมาะสมที่สุดสำหรับธุรกิจของคุณ!

ติดต่อทีมลิขสิทธิ์เเละเครื่องหมายการค้า :

โทร : 02-011-7161 ติดต่อ 101

E-mail : [email protected]

เปิดทำการวันจันทร์ – วันเสาร์ เวลา 09:00 – 18:00 น

หรือท่านสามารถสแกน QR Code เพิ่มเพื่อน 
LINE ID : @idgthailand เพื่อติดต่อเราผ่าน
แอพพลิเคชั่น LINE ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

Facebook
Twitter
LinkedIn
จดทะเบียนเตรื่องหมายการค้ากับเครื่องมือแพทย์ (72)

สืบเนื่องจากประเด็นดราม่ากรณี อินฟลูเอนเซอร์รายหนึ่งใช้ชื่อเครื่องหมายการค้า “ชาบูเถ้าแก่น้อย” จนทำให้ประชาชนบางส่วนเกิดความเข้าใจผิดคิดว่าเป็นแบรนด์เดียวกันกับ “สาหร่ายเถ้าแก่น้อย”  เพื่อป้องกันความสับสนบริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ต ติ้ง จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายขนมขบเคี้ยวสาหร่ายภายใต้แบรนด์ “เถ้าแก่น้อย” ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงว่า บริษัทฯ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ “ร้านชาบูเถ้าแก่น้อย” ที่กำลังเป็นประเด็นในสื่อสังคมออนไลน์ขณะนี้ 

471818129 892423436430630 5060939350123252103 n

จากข้อมูลการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า ทางบริษัท เถ้าแก่น้อยฯ ได้มีการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าที่ครอบคลุมกับธุรกิจของตนไว้ทั้งสินค้าและบริการ (ทั้งชื่อภาษาไทยและภาษาอังกฤษ) ยังรวมถึงบริการร้านอาหารด้วย ซึ่งการที่บุคคลอื่นนำเครื่องหมายที่ตนได้จดทะเบียนไว้ไปใช้โดยไม่รับอนุญาต ถือว่าเป็นการละเมิดเครื่องหมายมีโทษตามกฎหมาย เจ้าของเครื่องหมายที่จดทะเบียนไว้มีสิทธิดำเนินการต่อผู้ละเมิดเครื่องหมายการค้าได้ หากทำให้ผู้บริโภคเกิดความเข้าใจและส่งเสียต่อภาพลักษณ์ต่อแบรนด์ตนจากเหตุการณ์นี้ ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการปกป้องเครื่องหมายการค้าและการสื่อสารที่ชัดเจนเพื่อป้องกันความเข้าใจผิดที่อาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และธุรกิจของบริษัท การจดเครื่องหมายการค้าจึงเป็นเรื่องสำคัญยิ่งสำหรับเจ้าของธุรกิจ

ทำไมการจดเครื่องหมายการค้าถึงสำคัญล่ะ?

1.ป้องกันการลอกเลียนแบบ

เมื่อคุณสร้างชื่อแบรนด์หรือโลโก้ที่เป็นเอกลักษณ์ โอกาสที่คนอื่นจะนำชื่อหรือสัญลักษณ์ของคุณไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตมีสูง หากไม่มีการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า คุณอาจเสียสิทธิ์ในการปกป้องชื่อแบรนด์ของคุณอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

2.ลดความเสี่ยงต่อชื่อเสียง

การที่คนอื่นนำชื่อหรือโลโก้ของคุณไปใช้ อาจนำไปสู่การสร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงของธุรกิจ หากผู้ใช้รายอื่นนำชื่อของคุณไปทำสิ่งที่ขัดต่อมาตรฐานหรือไม่เหมาะสม ลูกค้าอาจสับสนและมองว่าคุณมีส่วนเกี่ยวข้อง

3.สร้างความน่าเชื่อถือให้ธุรกิจ

การมีเครื่องหมายการค้าที่จดทะเบียนแล้วช่วยแสดงให้เห็นว่าธุรกิจของคุณมีความเป็นมืออาชีพ และใส่ใจในทรัพย์สินทางปัญญาของตัวเองนอกจากนี้ยังสร้างความมั่นใจให้กับคู่ค้าและลูกค้าว่าคุณให้ความสำคัญกับการปกป้องแบรนด์ของคุณ

4.สิทธิพิเศษทางกฎหมาย

การจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าช่วยให้คุณมีสิทธิ์ตามกฎหมายในการดำเนินคดีกับผู้ที่ละเมิดสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นการลอกเลียนแบบชื่อ โลโก้ หรือสัญลักษณ์ทางการค้า

ขั้นตอนการจดเครื่องหมายการค้าทำอย่างไร?

1.ตรวจสอบความเหมือนคล้าย

ตรวจสอบว่าเครื่องหมายการค้าของคุณไม่เหมือนหรือคล้ายกับของผู้อื่นที่จดทะเบียนไว้แล้ว เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาทางกฎหมายในอนาคต

2.ยื่นคำขอจดทะเบียน

เตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้อง เช่น รูปแบบเครื่องหมายการค้า คำอธิบาย และรายละเอียดของผู้ยื่นคำขอ

3.ตรวจสอบโดยกรมทรัพย์สินทางปัญญา 

หน่วยงานที่ดูแลจะตรวจสอบคำขอและพิจารณาว่าเครื่องหมายของคุณสามารถจดทะเบียนได้หรือไม่

4.ประกาศโฆษณาและคัดค้าน (ถ้ามี)

หลังการตรวจสอบ เครื่องหมายการค้าจะถูกประกาศโฆษณาเพื่อเปิดโอกาสให้บุคคลอื่นคัดค้าน หากไม่มีการคัดค้าน คุณจะได้รับการจดทะเบียน

3 ข้อแนะนำสำหรับผู้ประกอบการ

เลือกชื่อและสัญลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์

ชื่อหรือโลโก้ที่จดจำง่ายและไม่ซ้ำใครช่วยให้แบรนด์ของคุณโดดเด่นและจดจำได้ง่าย

ศึกษากฏหมายและข้อกำหนดในประเทศ

เนื่องจากกฎหมายเครื่องหมายการค้าในแต่ละประเทศมีความแตกต่างกัน การศึกษากฎระเบียบและขั้นตอนจะช่วยให้กระบวนการดำเนินไปอย่างราบรื่น

ขยายการจดทะเบียนไปยังต่างประเทศ

หากธุรกิจของคุณมีแผนที่จะขยายตลาดไปยังประเทศอื่น การจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในประเทศเป้าหมายเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม

สรุป

การจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าเป็นการลงทุนที่ช่วยปกป้องธุรกิจและสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า อย่าปล่อยให้คู่แข่งหรือผู้ไม่หวังดีใช้ชื่อแบรนด์ของคุณโดยไม่ได้รับอนุญาต เพราะนอกจากจะทำให้สูญเสียรายได้แล้ว ยังอาจกระทบต่อชื่อเสียงที่คุณสร้างมานานอีกด้วยหากคุณกำลังมองหาความช่วยเหลือเกี่ยวกับการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า ติดต่อผู้เชี่ยวชาญด้านทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อให้คำแนะนำที่เหมาะสมที่สุดสำหรับธุรกิจของคุณ!

ติดต่อทีมลิขสิทธิ์เเละเครื่องหมายการค้า :

โทร : 02-011-7161 ติดต่อ 101

E-mail : [email protected]

เปิดทำการวันจันทร์ – วันเสาร์ เวลา 09:00 – 18:00 น

หรือท่านสามารถสแกน QR Code เพิ่มเพื่อน 
LINE ID : @idgthailand เพื่อติดต่อเราผ่าน
แอพพลิเคชั่น LINE ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ IDG

ผู้เชี่ยวชาญของเราพร้อมให้คำแนะนำคุณอย่างเต็มที่

ติดต่อทีมผู้เชี่ยวชาญ