ในปัจจุบันได้กำเนิดธุรกิจมากมายหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นธุรกิจในรูปแบบบุคคลธรรมดา ที่มีรูปแบบกิจการไม่ซับซ้อน และมีรายได้ไม่มาก สามารถตัดสินใจได้คนเดียว หรือจะเป็นธุรกิจในรูปแบบนิติบุคคลที่มีกิจการที่หลากหลายมีขนาดใหญ่ และมีรายได้เยอะ ซึ่งทั้ง 2 รูปแบบมีข้อดีที่แตกต่างกัน ดังนี้
|
เงินได้สุทธิ/กำไรสุทธิ
|
อัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
|
อัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล
|
|---|---|---|
|
0-150,000
|
ได้รับการยกเว้นภาษี
|
ได้รับการยกเว้นภาษี
|
|
150,001-300,000 บาท
|
5%
|
ได้รับการยกเว้นภาษี
|
|
300,001-500,000 บาท
|
10%
|
15%
|
|
500,001-750,000 บาท
|
15%
|
15%
|
|
750,001-1,000,000 บาท
|
20%
|
15%
|
|
1,000,0001-2,000,000 บาท
|
25%
|
15%
|
|
2,000,001-5,000,000 บาท
|
30%
|
20%
|
|
5,000,001 บาท ขั้นไป
|
35%
|
20%
|
จะเห็นได้ว่าถ้าธุรกิจมีรายได้สุทธิมากกว่า 750,001 บาท ควรดำเนินในธุรกิจรูปแบบนิติบุคคลเนื่องจากจะเสียภาษีเงินได้ในอัตรา 15% สูงสุดที่ 20% เท่านั้น ซึ่งจะเสียภาษีในอัตราที่น้อยกว่ารูปแบบบุคคลธรรมดา โดยธุรกิจรูปแบบบุคคลธรรมดาจะเสียภาษีเงินได้ในอัตรา 20% สูงสุดถึง 35% แต่ไม่ว่าจะดำเนินธุรกิจในรูปแบบใด ก็มีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป แล้วแต่เจ้าของธุรกิจจะนำไปปรับใช้กับธุรกิจของตัวเอง การวางแผนภาษีที่ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง
หากผู้ประกอบการท่านใดต้องการที่ปรึกษาเพื่อวางแผนและจัดการภาษี IDG พร้อมให้บริการเรามีบริการด้านบัญชี ภาษีที่ครอบคลุม พร้อมเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์กว่า 10 ปี สามารถปรึกษาข้อมูลเบื้องต้นได้ ฟรี!
สอบถามข้อมูลบริการด้านบัญชีได้ที่ :
โทร : 02-011-7161 ติดต่อ 900
E-mail : [email protected]
Line : @idgthailand (มี@)
