
เครื่องหมายการค้าถือเป็นสินทรัพย์ที่สำคัญสำหรับธุรกิจ แต่เพื่อให้ได้รับการปกป้องที่ดีที่สุด ผู้นำธุรกิจควรคำนึงถึงตลาดทั่วโลกปฏิเสธไม่ได้ว่าตอนนี้แบรนด์ในประเทศไทยเติบโตแบบก้าวกระโดด จึงมีหลาย ๆ แบรนด์ต้องขยายฐานลูกค้าและต้องการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในระดับสากลอย่างแพร่หลาย นั่นหมายถึงการยื่นจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในระดับสากล เป็นสิ่งที่แสดงถึงตัวตนของแบรนด์ เครื่องหมายการค้าอาจรวมถึง “คำ วลี สัญลักษณ์ หรือการออกแบบ รวมไปถึงส่วนประกอบต่าง ๆ ที่สื่อถึงแบรนด์และการบริการ
ปัจจุบันเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางยังคงโฟกัสการจดเครื่องหมายการค้าในประเทศเป็นหลัก อาจเพราะเพิ่งเริ่มต้น และยังไม่ได้มองเรื่องการขยายตลาดมากนัก แต่รู้หรือไม่? การจดเครื่องหมายการค้าต่างประเทศแท้จริงแล้วมีความสำคัญอย่างมากให้การสร้างมูลค่าให้แก่แบรนด์ รวมถึงการปกป้องโอกาสของธุรกิจในอนาคต เพื่อเป็นแนวทางสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ของคุณ นี่คือสิ่งเราที่อยากบอกต่อเจ้าของธุรกิจเกี่ยวกับการจดเครื่องหมายการค้าในต่างประเทศ
ดังนั้นหากต้องการจดเครื่องหมายการค้าต่างประเทศ ควรรู้ 3 สิ่งนี้
1. เปิดก่อนได้เปรียบ
เริ่มต้นตั้งแต่วันนี้ เพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดในอนาคต อย่างที่ทราบกันว่าเครื่องหมายการค้าจดที่ประเทศไหนคุ้มครองที่นั่นหากแบรนด์ของเราเป็นที่รู้จักมากขึ้นในประเทศ หากเราไม่ได้จดในประเทศต่าง ๆ ไว้ ก็มีโอกาสที่เราจะถูกขโมยเครื่องหมายการค้าของเราไปจดในประเทศต่าง ๆ ก่อนหรือที่เรียกกันว่า “trademark squatters.”
ซึ่งหากเราต้องการขยายธุรกิจไปประเทศเหล่านั้น เราจะไม่สามารถใช้เครื่องหมายการค้าตัวเองได้ ซึ่งปัจจุบันมีเคสลักษณะนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้อาจต้องเสียเวลา และค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น หากผู้ประกอบการไม่ป้องกันไว้แต่เนิ่นๆ ก็อาจทำให้เราเสียโอกาสในธุรกิจไม่น้อยเลยทีเดียวเท่านั้นยังไม่พอการจดเครื่องหมายการค้าต่างในประเทศ สามารถเพิ่มมูลค่าให้กับแบรนด์ได้มากขึ้น ยกตัวอย่างเช่นการขายกิจการหากเรามีเครื่อง-หมายการค้าในต่างประเทศมากเท่าไหร่ สามารถประเมินเป็นมูลค่าที่มากขึ้นตามไปด้วย ไปจนถึงการสร้างแรงดึงดูด และความมั่นใจแก่นักลงทุนได้ดีอีกด้วย
2. จดอย่างมีกลยุทธ์
อย่างที่เราบอกไปข้างต้นว่าการจดไว้ในหลายประเทศก็จะเพิ่มมูลค่าให้แบรนด์ได้สูง แต่นั่นไม่แปลว่าคุณจะต้องจดทุกประเทศ เพื่อเน้นจำนวน การจดเครื่องหมายการค้าต่างประเทศควรเป็นไปตามความเหมาะสมของธุรกิจ อุตสาหกรรม และความเหมาะสมของประเทศเป้าหมาย ซึ่งเราอาจต้องมีการวางกลยุทธ์กันอย่างรอบคอบ เช่นแนวโน้มของธุรกิจที่เราจะขยาย, ฐานการผลิต, แนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศนั้น และปัจจัยอื่น ๆ นั่นก็เพื่อให้มั่นใจว่าการจดทะเบียนของเราเป็นไปอย่างคุ้มค่า และมีประสิทธิภาพ
เนื่องจากมีปัจจัยหลายอย่างที่ต้องพิจารณาเป็นไปได้เราควรต้องจัดลำดับความสำคัญของประเทศเป้าหมาย รวมถึงติดตามข่าวสารของประเทศเหล่านั้น เพื่อให้ไม่เสียโอกาสในการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า เช่นเราอาจโฟกัสตลาดอาเซียน ญี่ปุ่น จีนก่อน เพราะมีโอกาสในการขยายธุรกิจในตลาดที่มีความใกล้เคียงกันก่อน จากนั้นค่อยโฟกัสตลาดยุโรป อเมริกาที่มีความแตกต่างออกไป หรือเพื่อให้วางกลยุทธ์อย่างมีประสิทธิภาพ อาจขอคำแนะนำจากที่ปรึกษาเครื่องหมายการค้ามืออาชีพ เพื่อช่วยคุณวางกลยุทธ์
3. พิจารณาตามงบประมาณของคุณ
ธุรกิจที่ดำเนินงานด้วยงบประมาณที่จำกัดมากอาจมีความกังวลที่จะจ่ายค่าธรรมเนียมทางกฎหมายเกินกว่าที่จำเป็น แต่หากเราเปลี่ยนมุมมองจากการดำเนินทางกฎหมาย ไปเป็นการลงทุนเพื่อสร้างมูลค่าแทน เราก็อาจรู้สึกว่าคุ้มค่าที่จ่ายมากขึ้น
เราไม่จำเป็นต้องยื่นจดพร้อมกันทั้งหมด หากเราวางแผนอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับงบประมาณในแต่ละปี เราสามารถบริหารจัดการได้ตามความเหมาะสม ซึ่งในปัจจุบันเองการจดเครื่องหมายการค้าในต่างประเทศก็มีความสะดวก และค่าใช้จ่ายไม่สูงมาก อย่างเช่นการยื่นผ่านระบบมาดริด (Madrid Protocal) ที่สามารถจดเครื่องหมายการค้าได้มากถึง 130 ประเทศ จากการยื่นจดและชำระค่าธรรมเดียวชุดเดียว ซึ่งวิธีเราสามารถลดค่าใช้จ่าย และกระบวนการดำเนินการได้เป็นอย่างดี แต่ก็ขึ้นอยู่กับประเทศที่จะยื่นจดด้วยเพราะจะมีค่าธรรมเนียมไม่เท่ากันในแต่ประเทศ