OUR BLOG

สงครามเทคโนโลยีครั้งใหม่: ใครจะครองโลกชิป?

สงครามชิป จีน สหรัฐ

สงครามเทคโนโลยีครั้งใหม่: ใครจะครองโลกชิป?

ในขณะที่สหรัฐอเมริกาพยายามปิดประตูทางการค้าด้วยกำแพงภาษีและควบคุมการส่งออก จีนกลับกำลังเปิดเกมรุกเต็มรูปแบบในสนามเทคโนโลยี ด้วยการ “คิดลึก-ทำจริง” ผ่านการวิจัยล้ำยุคและสิทธิบัตรจำนวนมหาศาลที่ยื่นจากมหาวิทยาลัยชั้นนำในช่วงปี 2024–2025

นี่ไม่ใช่แค่การ “ไล่ตาม” แต่คือการ “ออกแบบอนาคต” ของอุตสาหกรรมชิปโลก

สิทธิบัตรล้ำหน้า: พิมพ์เขียวนวัตกรรมของจีน

การวิเคราะห์สิทธิบัตรกว่า 687 ฉบับเผยให้เห็นความเคลื่อนไหวที่น่าจับตามอง:

  • Organic Semiconductor Compounds
    วัสดุสารกึ่งตัวนำรุ่นใหม่ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ OLED และชิปประมวลผล
    CN118684686A – Changchun Institute of Applied Chemistry, CAS

  • 2D FFT Hardware Accelerators
    ฮาร์ดแวร์ที่ช่วยเร่งการประมวลผลของ AI ให้เร็วขึ้นและประหยัดพลังงาน
    CN119106225A – Tsinghua University

  • Wireless Fluid Sensors
    เซนเซอร์วัดของไหลไร้สาย ใช้ได้ทั้งในแพทย์ อุตสาหกรรม และสิ่งแวดล้อม
    CN119290090A – Tsinghua + Beijing Electronics

  • Tensor Processing Units (TPUs)
    ชิปที่เรียนรู้และปรับตัวได้เหมือนสมองคน เหมาะสำหรับ AI สมัยใหม่
    CN118860962B – Tsinghua University

  • Multi-Chip Integration Using Interposers
    เทคโนโลยีการประกอบชิปหลายตัวให้ทำงานร่วมกันในพื้นที่จำกัด
    CN119069440A – Tsinghua Innovation Center Shanghai

งานวิจัยเหล่านี้ไม่ใช่แค่ในห้องแล็บ แต่มุ่งสู่ตลาดจริงในอนาคตอันใกล้

ฝั่งสหรัฐฯ: “Make America Chip Again?”

ในขณะที่จีนกำลังลุยวิจัย สหรัฐกลับเดินเกมเชิงรับ โดยอดีตประธานาธิบดี Donald Trump พยายามเรียกการผลิตกลับประเทศ ด้วยมาตรการภาษีเข้มข้น และแรงกดดันต่อบริษัทต่างชาติ เช่น TSMC

แม้จะมี CHIPS Act หนุนการลงทุน แต่ก็ยังเผชิญหลายปัญหา:

  1. ขาดแคลนแรงงานขั้นสูง

  2. โรงงานล่าช้า

  3. นโยบายตรวจคนเข้าเมืองที่ไม่เอื้อ

แม้แต่รายงานของ TSMC ยังระบุว่า:
“เราไม่สามารถหยุดการที่ชิปไหลไปถึงจีนได้อย่างสมบูรณ์… ซัพพลายเชนมันซับซ้อนเกินไป”

 

แล้วใครกำลังนำอยู่กันแน่?

ถ้าวัดจากจำนวนและคุณภาพของสิทธิบัตร จีนกำลังก้าวขึ้นเป็นผู้นำโลกด้านการพัฒนาเทคโนโลยีชิป ขณะที่สหรัฐยังคงพยายามสร้างโครงสร้างพื้นฐานใหม่ให้แข็งแรงพอจะแข่งขัน

นี่ไม่ใช่แค่ “สงครามเทคโนโลยี” แต่มันคือ:

บทเรียนยุทธศาสตร์ว่าอนาคตไม่ได้เป็นของประเทศที่ “ปิดกั้น” แต่เป็นของประเทศที่ “เปิดรับและร่วมมือ”

ประเทศที่จะครองโลกแห่งชิปต้องมี 3 สิ่ง:

  1. วิทยาศาสตร์ล้ำหน้า — เช่น ชิป AI จากจีน

  2. การผลิตแม่นยำ — อย่างโรงงาน fab ในไต้หวัน

  3. นโยบายเปิดกว้าง — ที่ส่งเสริมการร่วมมือระดับโลก

แล้วคุณล่ะ คิดว่าใครจะเป็นผู้นำตัวจริงในยุค AI และ Semiconductors?

ที่มา : The Strategic Innovator
 
สงครามชิป จีน สหรัฐ

สงครามเทคโนโลยีครั้งใหม่: ใครจะครองโลกชิป?

ในขณะที่สหรัฐอเมริกาพยายามปิดประตูทางการค้าด้วยกำแพงภาษีและควบคุมการส่งออก จีนกลับกำลังเปิดเกมรุกเต็มรูปแบบในสนามเทคโนโลยี ด้วยการ “คิดลึก-ทำจริง” ผ่านการวิจัยล้ำยุคและสิทธิบัตรจำนวนมหาศาลที่ยื่นจากมหาวิทยาลัยชั้นนำในช่วงปี 2024–2025

นี่ไม่ใช่แค่การ “ไล่ตาม” แต่คือการ “ออกแบบอนาคต” ของอุตสาหกรรมชิปโลก

สิทธิบัตรล้ำหน้า: พิมพ์เขียวนวัตกรรมของจีน

การวิเคราะห์สิทธิบัตรกว่า 687 ฉบับเผยให้เห็นความเคลื่อนไหวที่น่าจับตามอง:

  • Organic Semiconductor Compounds
    วัสดุสารกึ่งตัวนำรุ่นใหม่ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ OLED และชิปประมวลผล
    CN118684686A – Changchun Institute of Applied Chemistry, CAS

  • 2D FFT Hardware Accelerators
    ฮาร์ดแวร์ที่ช่วยเร่งการประมวลผลของ AI ให้เร็วขึ้นและประหยัดพลังงาน
    CN119106225A – Tsinghua University

  • Wireless Fluid Sensors
    เซนเซอร์วัดของไหลไร้สาย ใช้ได้ทั้งในแพทย์ อุตสาหกรรม และสิ่งแวดล้อม
    CN119290090A – Tsinghua + Beijing Electronics

  • Tensor Processing Units (TPUs)
    ชิปที่เรียนรู้และปรับตัวได้เหมือนสมองคน เหมาะสำหรับ AI สมัยใหม่
    CN118860962B – Tsinghua University

  • Multi-Chip Integration Using Interposers
    เทคโนโลยีการประกอบชิปหลายตัวให้ทำงานร่วมกันในพื้นที่จำกัด
    CN119069440A – Tsinghua Innovation Center Shanghai

งานวิจัยเหล่านี้ไม่ใช่แค่ในห้องแล็บ แต่มุ่งสู่ตลาดจริงในอนาคตอันใกล้

ฝั่งสหรัฐฯ: “Make America Chip Again?”

ในขณะที่จีนกำลังลุยวิจัย สหรัฐกลับเดินเกมเชิงรับ โดยอดีตประธานาธิบดี Donald Trump พยายามเรียกการผลิตกลับประเทศ ด้วยมาตรการภาษีเข้มข้น และแรงกดดันต่อบริษัทต่างชาติ เช่น TSMC

แม้จะมี CHIPS Act หนุนการลงทุน แต่ก็ยังเผชิญหลายปัญหา:

  1. ขาดแคลนแรงงานขั้นสูง

  2. โรงงานล่าช้า

  3. นโยบายตรวจคนเข้าเมืองที่ไม่เอื้อ

แม้แต่รายงานของ TSMC ยังระบุว่า:
“เราไม่สามารถหยุดการที่ชิปไหลไปถึงจีนได้อย่างสมบูรณ์… ซัพพลายเชนมันซับซ้อนเกินไป”

 

แล้วใครกำลังนำอยู่กันแน่?

ถ้าวัดจากจำนวนและคุณภาพของสิทธิบัตร จีนกำลังก้าวขึ้นเป็นผู้นำโลกด้านการพัฒนาเทคโนโลยีชิป ขณะที่สหรัฐยังคงพยายามสร้างโครงสร้างพื้นฐานใหม่ให้แข็งแรงพอจะแข่งขัน

นี่ไม่ใช่แค่ “สงครามเทคโนโลยี” แต่มันคือ:

บทเรียนยุทธศาสตร์ว่าอนาคตไม่ได้เป็นของประเทศที่ “ปิดกั้น” แต่เป็นของประเทศที่ “เปิดรับและร่วมมือ”

ประเทศที่จะครองโลกแห่งชิปต้องมี 3 สิ่ง:

  1. วิทยาศาสตร์ล้ำหน้า — เช่น ชิป AI จากจีน

  2. การผลิตแม่นยำ — อย่างโรงงาน fab ในไต้หวัน

  3. นโยบายเปิดกว้าง — ที่ส่งเสริมการร่วมมือระดับโลก

แล้วคุณล่ะ คิดว่าใครจะเป็นผู้นำตัวจริงในยุค AI และ Semiconductors?

ที่มา : The Strategic Innovator
 

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ IDG

ผู้เชี่ยวชาญของเราพร้อมให้คำแนะนำคุณอย่างเต็มที่

ติดต่อทีมผู้เชี่ยวชาญ