
ถึงแม้ว่าการคุ้มครองสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมใหม่ ๆ ด้วยกฏหมายสิทธิบัตรนั้นจะถือกำเนิดมาในโลกเป็นระยะเวลามากกว่า 500 ปีแล้ว แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า บริษัทชั้นนำต่าง ๆ ทั่วโลก ก็ยังคงเดินหน้าขอรับความคุ้มครองสิ่งประดิษฐ์ของตนเองอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากการเป็นเจ้าของสิทธิบัตรนั้น ก่อให้เกิดความได้เปรียบทางด้านธุรกิจมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทคโนโลยีสมัยใหม่ได้เชื่อมต่อภูมิภาคต่าง ๆ ของโลกใบนี้ไว้เข้าด้วยกัน การแข่งขันทางธุรกิจจึงไม่ได้ถูกจำกัดด้วยเส้นพรมแดนเพียงเท่านั้น ซึ่งผู้ประกอบการสามารถถูกท้าทายโดยผู้เล่นอื่น ๆ ได้จากทั่วโลก ในบทความนี้ จึงขอแนะนำว่าเพราะเหตุใดการเป็นเจ้าของสิทธิบัตรจึงเป็นกลยุทธ์สำคัญที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถแข่งขันและดำเนินธุรกิจอย่างได้เปรียบมากขึ้น
1.ป้องกันการละเมิดสิ่งประดิษฐ์
ข้อได้เปรียบดังกล่าวเป็นเหตุผลขั้นพื้นฐานที่สุดของการยื่นจดสิทธิบัตรซึ่งอาจรวมไปถึงทรัพย์สินทางปัญญาประเภทอื่น ๆ นั่นก็คือ ป้องกันไม่ให้สิ่งประดิษฐ์ของเรา สามารถถูกละเมิดได้โดยง่าย เนื่องจากในสร้างสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์ นวัตกรรม หรือเทคโนโลยีต่าง ๆ จำเป็นต้องใช้ต้นทุนและระยะเวลาในการค้นคว้า วิจัย พัฒนา และทดสอบเป็นจำนวนมาก การปล่อยให้คู่แข่งสามารถนำผลลัพธ์จากการพัฒนาดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ย่อมไม่เป็นผลดีสำหรับผู้พัฒนาในการแข่งขัน การจดสิทธิบัตรเพื่อคุ้มครองจึงเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันไม่ให้สิ่งประดิษฐ์ดังกล่าว สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงธุรกิจโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่น ๆ ได้โดยง่าย
หนึ่งในสิ่งที่ผู้ประกอบการจำนวนมากมักเข้าใจผิด คือ สิทธิบัตรจะช่วยไม่ให้สิ่งประดิษฐ์ของเราสามารถถูกลอกเลียนแบบ หรือที่เรามักเรียกกันติดปากว่า “ก๊อป” ได้ ความเข้าใจดังกล่าวถือว่าถูกต้อง แต่ยังไม่ครอบคลุมถึงขอบเขตการคุ้มครองของสิทธิบัตรอย่างสมบูรณ์ เนื่องจากการละเมิดสิทธิบัตรนั้น ไม่ได้เพียงแต่ถูกจำกัดไว้แค่การ “ทำซ้ำ” เท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงการใช้งาน ดัดแปลง จำหน่าย หรือนำเข้า โดยไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของสิทธิบัตรอีกด้วย ดังนั้น สิทธิบัตร จึงมีขอบเขตความคุ้มครองที่มากกว่าการป้องกันไม่ให้สิ่งประดิษฐ์ของเราจะถูกลอกเลียนแบบนั่นเอง
2.สร้างความได้เปรียบจากการเป็นเจ้าของสิทธิแต่เพียงผู้เดียว (Exclusive Right)
การเป็นเจ้าของสิทธิบัตรนั้น มาพร้อมกับการเป็นเจ้าของสิทธิแต่เพียงผู้เดียวในสิ่งประดิษฐ์ที่มีการขอรับความคุ้มครอง ส่งผลให้คู่แข่งไม่สามารถทำสินค้าที่มีลักษณะคล้ายกับที่มีการรับจดทะเบียนมาแข่งขันในตลาด หรืออาจต้องเสียต้นทุนและเวลาเพื่อพัฒนาสินค้าเข้ามาแข่งขัน ซึ่งนอกเหนือจากการป้องกันไม่ให้ผู้อื่นนำสินค้ามาแข่งขันได้โดยง่ายแล้ว การเป็นเจ้าของสิทธิแต่เพียงผู้เดียวยังทำให้เจ้าของสิทธิบัตร มีความยืดหยุ่นในการกำหนดราคาและวางแผนการตลาดให้ได้ประโยชน์มากขึ้น โดยสิทธิแต่เพียงผู้เดียวนี้จะอยู่กับเจ้าของสิทธิบัตรตลอดอายุความคุ้มครองนอกเหนือไปจากข้อได้เปรียบในข้างต้นแล้ว การเป็นเจ้าของสิทธิแต่เพียงผู้เดียวยังเป็นข้อได้เปรียบในการขยายธุรกิจอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นในลักษณะของการร่วมลงทุน การระดมทุน และการขอสินเชื่อ เป็นต้น
3.สิทธิบัตรช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือของบริษัท
ในสิทธิบัตรทุกฉบับที่มีการรับจดทะเบียนทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ จะถูกประกาศโฆษณาไว้ในฐานข้อมูลสิทธิบัตรของประเทศนั้น ๆ โดยนอกเหนือจากรายละเอียดของการประดิษฐ์แล้ว ชื่อของเจ้าของสิทธิบัตรและผู้ประดิษฐ์จะถูกระบุไว้ในฐานข้อมูลอีกด้วย ซึ่งฐานข้อมูลดังกล่าวจะเป็นสาธารณะและสามารถเข้าถึงได้ด้วยอินเทอร์เน็ต ดังนั้น เมื่อชื่อของบริษัทเราถูกค้นหาใน Search Engine ต่าง ๆ ก็จะมีโอกาสที่จะแสดงข้อมูลขึ้นว่าเรามีสิทธิบัตรไว้ในครอบครอง ย่อมหมายความว่า บริษัทมีขีดความสามารถในการวิจัย พัฒนาสิ่งประดิษฐ์ที่มากเพียงพอที่จะยื่นจดสิทธิบัตรได้ ส่งผลให้บริษัทของเรามีความน่าเชื่อถือมากขึ้นอีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากมีชื่อของบริษัทเราปรากฏในฐานะเจ้าของสิทธิบัตรในฐานข้อมูลของต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา หรือยุโรป ก็จะยิ่งเพิ่มความน่าเชื่อถือต่อบริษัทของเรามากขึ้นไปอีก
นอกจากนี้ ยังมีข้อได้เปรียบในด้านการตลาด เนื่องจากสินค้าที่มีการจดสิทธิบัตรย่อมสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่ผู้บริโภค ในส่วนของคุณภาพ รวมไปถึงลักษณะหรือฟังก์ชันพิเศษในการใช้งานที่มากกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับสินค้าประเภทเดียวกันในตลาดที่ไม่ได้จดสิทธิบัตร
4.สิทธิบัตรช่วยในการหาแหล่งเงินทุน
การมีสิทธิบัตรไว้ในครอบครองนั้นเป็นเครื่องมือสำคัญในการดึงดูดนักลงทุน ให้มาร่วมลงทุนกับเราได้ โดยเฉพาะกับบริษัทขนาดเล็ก หรือสตาร์ตอัพ ที่มีไอเดียหรือแนวทางการดำเนินธุรกิจ แต่ยังขาดเงินทุนในการดำเนินการ โดยการมีสิทธิบัตรไว้ในครอบครองนั้น เป็นเครื่องมือในการการันตีที่ดีอย่างหนึ่ง ว่าบริษัทเราจะสามารถสร้างรายได้ ซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญที่นักลงทุนขนาดใหญ่ใช้ในการพิจารณาเพื่อร่วมลงทุน นอกจากนี้ สิทธิบัตรยังช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้แก่ไอเดียของเรา ในการระดมทุนจากภาคส่วนต่าง ๆ ให้มาร่วมลงทุนอีกด้วยสำหรับบริษัทขนาดใหญ่ การมีสิทธิบัตรนั้นยังช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือที่จะส่งผลไปสู่การเพิ่มช่องทางในการหาเงินทุนเพื่อขยายธุรกิจได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น การร่วมทุนการบริษัทอื่นในการเปิดสายการผลิตใหม่ การจัดตั้งบริษัทร่วม หรือการร่วมกันขยายตลาดออกไปยังประเทศอื่น ๆ อีกด้วย
สิทธิบัตรในบางประเทศ รวมไปถึงทรัพย์สินทางปัญญาประเภทอื่น ๆ สามารถนำไปใช้ในการค้ำประกันเพื่อขอสินเชื่อเช่นเดียวกับทรัพย์สินประเภทอื่น ๆ เช่น อสังหาริมทรัพย์ได้ โดยจะมีกระบวนการในการประเมินมูลค่าทรัพย์สินทางปัญญานั้น ๆ เพื่อกำหนดเป็นเพดานในการกู้เงิน ซึ่งในปัจจุบัน หน่วยงานของประเทศไทยกำลังอยู่ในขั้นตอนการศึกษาความเป็นไปได้ ในการนำนโยบายดังกล่าวมาปรับใช้ภายในประเทศ
5.ช่วยขยายช่องทางในการสร้างรายได้
นอกเหนือไปจากการจำหน่ายสินค้าโดยตรงแล้ว การมีสิทธิบัตรยังสามารถขยายช่องทางในการสร้างรายได้ให้แก่ธุรกิจได้อีกด้วย สิทธิบัตร ซึ่งเป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งนั้นสามารถทำการโอน ขาย ให้เช่า หรืออนุญาตให้ใช้สิทธิได้ เช่นเดียวกับทรัพย์สินประเภทอื่น ๆ เลย หากผู้ประกอบการมีสิทธิบัตรไว้ในครอบครอง แต่ไม่ต้องการผลิตเพื่อจำหน่ายด้วยตนเอง สามารถขาย หรืออนุญาตให้ผู้อื่นใช้สิทธิ เพื่อแลกกับค่าตอบแทนได้ โดยการขาย จะเป็นการขายขาด และโอนสิทธิให้แก่ผู้อื่นไปเลย ในขณะที่การอนุญาตให้ใช้สิทธินั้น ความเป็นเจ้าของสิทธิบัตรจะยังคงอยู่ที่เรา เพียงแต่ยินยอมให้ผู้อื่นสามารถนำไปใช้ได้ในช่วงเวลาหนึ่ง
6.ทำตลาดในต่างประเทศได้ง่ายขึ้น
ดังที่กล่าวไปในข้างต้น การมีสิทธิบัตรไว้ในครอบครองนั้นจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและดึงดูดผู้ร่วมลงทุน ที่จะสามารถพาให้เราสามารถขยายตลาดไปยังต่างประเทศได้ง่ายยิ่งขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น นอกเหนือจากการช่วยป้องกันไม่ให้งานของเราถูกละเมิดได้โดยง่ายแล้ว การเป็นเจ้าของสิทธิบัตรยังทำให้บริษัทของเราเป็นที่รู้จักต่อสาธารณชนอย่างแพร่หลายขึ้นอีกด้วย
ทั้งนี้ สิทธิบัตรจะได้รับการคุ้มครองเฉพาะประเทศที่ได้ยื่นไว้เท่านั้น หากไม่ได้มีการยื่นไว้ในประเทศดังกล่าว ก็จะไม่สามารถมีสิทธิทางกฎหมายเหนือสิทธิบัตรฉบับนั้น ๆ ได้ แต่ในปัจจุบัน การขอรับสิทธิบัตรในต่างประเทศนั้นสามารถทำได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น เนื่องจากสนธิสัญญาระหว่างประเทศหลายฉบับได้ถูกจำทำขึ้น โดยมุ่งเน้นเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ธุรกิจที่ต้องการขยายตลาดไปในประเทศต่าง ๆ
หากผู้ประกอบการท่านใดกำลังมองสนใจในเรื่องการจดทะเบียนสิทธิบัตร IDG เราพร้อมให้บริการด้านการจดทะเบียนสิทธิบัตร อนุสิทธิบัตร สิทธิบัตรการออกเเบบผลิตภัณฑ์ เเละบริการวิเคราะห์สิทธิบัตร เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิบัตรในหลากหลายสาขาวิชาชีพ คุณสามารถมั่นใจได้ว่าผลงานของคุณจะได้รับการดูเเลจากผู้เชี่ยวชาญโดยตรง เรายินดีให้บริการปกป้องคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาและนวัตกรรม แบบครบวงจร ครอบคลุมทั้งในประเทศ เเละต่างประเทศ ปรึกษาข้อมูลด้านสิทธิบัตรกับเรา ฟรี!
ติดต่อทีม
สิทธิบัตร IDG :
โทร : 02-011-7161 ติดต่อ 301
E-mail : [email protected]
เปิดทำการวันจันทร์ – วันเสาร์
เวลา 09:00 – 18:00 น