OUR BLOG

เจาะลึกโมเดลธุรกิจ : กุญแจสู่ความสำเร็จขององค์กร

จดทะเบียนเตรื่องหมายการค้ากับเครื่องมือแพทย์ (66)

โมเดลธุรกิจคืออะไร?

ผู้ประกอบการหลายๆท่าน ที่คุ้นเคยกับโลกแห่งธุรกิจคงเคยได้ยินคำว่า Business Model บ่อยๆ โดยเฉพาะ Business Model Canvas หรือ BMC แต่จริงๆ แล้ว Business Model มันคืออะไรกันแน่ ? 
คำว่า Business Model พึ่งใช้กันในแวดวงธุรกิจเมื่อไม่กี่สิบปีนี่เอง โดย Business Model เริ่มใช้กันในปี 1990 ยุคอินเตอร์เน็ทเฟื่องฟู เนื่องจากมีธุรกิจเกิดใหม่ที่เกี่ยวกับอินเตอร์เน็ท (ยุค .com) เกิดขึ้นจำนวนมาก มีการทำธุรกิจแบบใหม่ๆ มีการหารายได้รูปที่คนทั่วไปเข้าใจยาก เช่น ลูกค้าไม่ต้องจ่ายก็ใช้ฟรี หรือจ่ายเงินให้ลูกค้าจากการคลิกโฆษณา หรือการทำ Subsciption ซึ่งเป็นเรื่องใหม่สมัยนั้น เป็นสาเหตุให้เกิดคำว่า Business Model ขึ้นมาและได้รับความนิยมมาโดยตลอด

โมเดลธุรกิจ (Business Model) เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าใจแนวทางและโครงสร้างการดำเนินธุรกิจของตนเองตั้งแต่เริ่มต้น โดยช่วยตอบคำถามสำคัญเกี่ยวกับการสร้างรายได้ การจัดการทรัพยากร และการส่งมอบคุณค่าให้กับลูกค้า โดยโมเดลธุรกิจเปรียบเสมือน “พิมพ์เขียว” ที่ผู้ประกอบการใช้ตรวจสอบความเป็นไปได้และความน่าสนใจของไอเดียธุรกิจ ก่อนที่จะลงทุนหรือดำเนินการจริง

องค์ประกอบของโมเดลธุรกิจ 

ธุรกิจของเราจะให้บริการหรือขายอะไร ขายให้ใคร ขาย อย่างไร ขายที่ไหน ผลิตด้วยอะไร ใครมาช่วยผลิต และมีรายได้และค่าใช้จ่ายอย่างไร รวมถึงมีกำไรจากการให้บริการและสินค้าตัวไหนบ้าง (กรมสงเสรมอตสาหกรรม, 2562) หรือสรุปง่ายๆ เป็น 3 องค์ประกอบหลัก 

1 วิธีการหาเงินอย่างไร

2.ต้องทำอะไรบ้างถึงจะได้เงิน 

3.ถ้าทำตามข้อ 1 และ 2 แล้วจะกำไรหรือไม่ 

องค์ประกอบพื้นฐานของโมเดลธุรกิจ

โมเดลธุรกิจสามารถสรุปง่ายๆ ได้เป็น 3 องค์ประกอบหลัก คือ:

  1. วิธีการหาเงิน (Revenue Generation): ธุรกิจของเราจะสร้างรายได้อย่างไร เช่น การขายสินค้า การให้บริการ หรือการเก็บค่าธรรมเนียม
  2. กิจกรรมที่ต้องทำ (Key Activities): กิจกรรมหรือกระบวนการใดที่จำเป็นต้องทำเพื่อให้เกิดรายได้ เช่น การผลิต การจัดจำหน่าย การสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า
  3. การวิเคราะห์ความคุ้มค่า (Profitability Analysis): รายได้ที่เกิดขึ้นจะคุ้มค่ากับต้นทุนหรือไม่ และสามารถสร้างกำไรได้ในระยะยาวหรือเปล่า

ตัวอย่างโมเดลธุรกิจ: ธุรกิจขายเสื้อผ้าแฟชั่นผู้ชาย

  1. วิธีการหาเงิน: ขายเสื้อผ้าผ่านตลาดนัดในชุมชน โดยลูกค้าหลักคือผู้ที่มาเดินตลาด
  2. กิจกรรมที่ต้องทำ: ออกแบบเสื้อผ้าที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้า ผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ และจัดการเรื่องโลจิสติกส์
  3. การวิเคราะห์ความคุ้มค่า: หากสามารถขายสินค้าในราคาที่สูงกว่าต้นทุนรวม จะเกิดกำไร

อย่างไรก็ตาม การอธิบายโมเดลธุรกิจเพียง 3 องค์ประกอบนี้อาจไม่ครอบคลุมในทุกมิติของการดำเนินธุรกิจ

การปรับปรุงด้วย Business Model Canvas (BMC)

นักวิจัย Alex Osterwalder ได้นำเสนอเครื่องมือที่เรียกว่า Business Model Canvas หรือ BMC ซึ่งเป็นแผนภาพที่ช่วยให้ผู้ประกอบการมองเห็นภาพรวมของธุรกิจอย่างเป็นระบบ โดย BMC มีองค์ประกอบ 9 ด้านที่ครอบคลุมมิติสำคัญของธุรกิจ ได้แก่:

  1. Customer Segments (กลุ่มลูกค้า): ใครคือลูกค้าหลักของเรา
  2. Value Propositions (คุณค่าที่ส่งมอบ): เราจะมอบคุณค่าหรือประโยชน์อะไรให้ลูกค้า
  3. Channels (ช่องทางการสื่อสารและการขาย): ลูกค้าจะเข้าถึงสินค้า/บริการของเราได้อย่างไร
  4. Customer Relationships (ความสัมพันธ์กับลูกค้า): เราจะสร้างและรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าอย่างไร
  5. Revenue Streams (กระแสรายได้): แหล่งที่มาของรายได้จากธุรกิจ
  6. Key Resources (ทรัพยากรหลัก): ทรัพยากรใดที่จำเป็นในการดำเนินธุรกิจ
  7. Key Activities (กิจกรรมหลัก): กิจกรรมสำคัญที่ต้องทำเพื่อดำเนินธุรกิจ
  8. Key Partnerships (พันธมิตรหลัก): ใครคือพันธมิตรที่ช่วยให้ธุรกิจดำเนินไปได้
  9. Cost Structure (โครงสร้างต้นทุน): ต้นทุนหลักที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจ
ข้อดีของ BMC
  • ช่วยให้ผู้ประกอบการมองเห็นภาพรวมของธุรกิจอย่างชัดเจน
  • ส่งเสริมการสื่อสารในทีมงานได้ง่ายขึ้น
  • เป็นเครื่องมือที่เหมาะสำหรับการระดมความคิดหรือปรับเปลี่ยนโมเดลธุรกิจให้เหมาะสมกับสถานการณ์

บทความถัดไปจะเจาะลึกแต่ละองค์ประกอบของ Business Model Canvas พร้อมตัวอย่างการนำไปใช้ในธุรกิจจริง เพื่อให้คุณสามารถเริ่มต้นสร้างแผนภาพโมเดลธุรกิจของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ.

Facebook
Twitter
LinkedIn
จดทะเบียนเตรื่องหมายการค้ากับเครื่องมือแพทย์ (66)

โมเดลธุรกิจคืออะไร?

ผู้ประกอบการหลายๆท่าน ที่คุ้นเคยกับโลกแห่งธุรกิจคงเคยได้ยินคำว่า Business Model บ่อยๆ โดยเฉพาะ Business Model Canvas หรือ BMC แต่จริงๆ แล้ว Business Model มันคืออะไรกันแน่ ? 
คำว่า Business Model พึ่งใช้กันในแวดวงธุรกิจเมื่อไม่กี่สิบปีนี่เอง โดย Business Model เริ่มใช้กันในปี 1990 ยุคอินเตอร์เน็ทเฟื่องฟู เนื่องจากมีธุรกิจเกิดใหม่ที่เกี่ยวกับอินเตอร์เน็ท (ยุค .com) เกิดขึ้นจำนวนมาก มีการทำธุรกิจแบบใหม่ๆ มีการหารายได้รูปที่คนทั่วไปเข้าใจยาก เช่น ลูกค้าไม่ต้องจ่ายก็ใช้ฟรี หรือจ่ายเงินให้ลูกค้าจากการคลิกโฆษณา หรือการทำ Subsciption ซึ่งเป็นเรื่องใหม่สมัยนั้น เป็นสาเหตุให้เกิดคำว่า Business Model ขึ้นมาและได้รับความนิยมมาโดยตลอด

โมเดลธุรกิจ (Business Model) เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าใจแนวทางและโครงสร้างการดำเนินธุรกิจของตนเองตั้งแต่เริ่มต้น โดยช่วยตอบคำถามสำคัญเกี่ยวกับการสร้างรายได้ การจัดการทรัพยากร และการส่งมอบคุณค่าให้กับลูกค้า โดยโมเดลธุรกิจเปรียบเสมือน “พิมพ์เขียว” ที่ผู้ประกอบการใช้ตรวจสอบความเป็นไปได้และความน่าสนใจของไอเดียธุรกิจ ก่อนที่จะลงทุนหรือดำเนินการจริง

องค์ประกอบของโมเดลธุรกิจ 

ธุรกิจของเราจะให้บริการหรือขายอะไร ขายให้ใคร ขาย อย่างไร ขายที่ไหน ผลิตด้วยอะไร ใครมาช่วยผลิต และมีรายได้และค่าใช้จ่ายอย่างไร รวมถึงมีกำไรจากการให้บริการและสินค้าตัวไหนบ้าง (กรมสงเสรมอตสาหกรรม, 2562) หรือสรุปง่ายๆ เป็น 3 องค์ประกอบหลัก 

1 วิธีการหาเงินอย่างไร

2.ต้องทำอะไรบ้างถึงจะได้เงิน 

3.ถ้าทำตามข้อ 1 และ 2 แล้วจะกำไรหรือไม่ 

องค์ประกอบพื้นฐานของโมเดลธุรกิจ

โมเดลธุรกิจสามารถสรุปง่ายๆ ได้เป็น 3 องค์ประกอบหลัก คือ:

  1. วิธีการหาเงิน (Revenue Generation): ธุรกิจของเราจะสร้างรายได้อย่างไร เช่น การขายสินค้า การให้บริการ หรือการเก็บค่าธรรมเนียม
  2. กิจกรรมที่ต้องทำ (Key Activities): กิจกรรมหรือกระบวนการใดที่จำเป็นต้องทำเพื่อให้เกิดรายได้ เช่น การผลิต การจัดจำหน่าย การสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า
  3. การวิเคราะห์ความคุ้มค่า (Profitability Analysis): รายได้ที่เกิดขึ้นจะคุ้มค่ากับต้นทุนหรือไม่ และสามารถสร้างกำไรได้ในระยะยาวหรือเปล่า

ตัวอย่างโมเดลธุรกิจ: ธุรกิจขายเสื้อผ้าแฟชั่นผู้ชาย

  1. วิธีการหาเงิน: ขายเสื้อผ้าผ่านตลาดนัดในชุมชน โดยลูกค้าหลักคือผู้ที่มาเดินตลาด
  2. กิจกรรมที่ต้องทำ: ออกแบบเสื้อผ้าที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้า ผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ และจัดการเรื่องโลจิสติกส์
  3. การวิเคราะห์ความคุ้มค่า: หากสามารถขายสินค้าในราคาที่สูงกว่าต้นทุนรวม จะเกิดกำไร

อย่างไรก็ตาม การอธิบายโมเดลธุรกิจเพียง 3 องค์ประกอบนี้อาจไม่ครอบคลุมในทุกมิติของการดำเนินธุรกิจ

การปรับปรุงด้วย Business Model Canvas (BMC)

นักวิจัย Alex Osterwalder ได้นำเสนอเครื่องมือที่เรียกว่า Business Model Canvas หรือ BMC ซึ่งเป็นแผนภาพที่ช่วยให้ผู้ประกอบการมองเห็นภาพรวมของธุรกิจอย่างเป็นระบบ โดย BMC มีองค์ประกอบ 9 ด้านที่ครอบคลุมมิติสำคัญของธุรกิจ ได้แก่:

  1. Customer Segments (กลุ่มลูกค้า): ใครคือลูกค้าหลักของเรา
  2. Value Propositions (คุณค่าที่ส่งมอบ): เราจะมอบคุณค่าหรือประโยชน์อะไรให้ลูกค้า
  3. Channels (ช่องทางการสื่อสารและการขาย): ลูกค้าจะเข้าถึงสินค้า/บริการของเราได้อย่างไร
  4. Customer Relationships (ความสัมพันธ์กับลูกค้า): เราจะสร้างและรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าอย่างไร
  5. Revenue Streams (กระแสรายได้): แหล่งที่มาของรายได้จากธุรกิจ
  6. Key Resources (ทรัพยากรหลัก): ทรัพยากรใดที่จำเป็นในการดำเนินธุรกิจ
  7. Key Activities (กิจกรรมหลัก): กิจกรรมสำคัญที่ต้องทำเพื่อดำเนินธุรกิจ
  8. Key Partnerships (พันธมิตรหลัก): ใครคือพันธมิตรที่ช่วยให้ธุรกิจดำเนินไปได้
  9. Cost Structure (โครงสร้างต้นทุน): ต้นทุนหลักที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจ
ข้อดีของ BMC
  • ช่วยให้ผู้ประกอบการมองเห็นภาพรวมของธุรกิจอย่างชัดเจน
  • ส่งเสริมการสื่อสารในทีมงานได้ง่ายขึ้น
  • เป็นเครื่องมือที่เหมาะสำหรับการระดมความคิดหรือปรับเปลี่ยนโมเดลธุรกิจให้เหมาะสมกับสถานการณ์

บทความถัดไปจะเจาะลึกแต่ละองค์ประกอบของ Business Model Canvas พร้อมตัวอย่างการนำไปใช้ในธุรกิจจริง เพื่อให้คุณสามารถเริ่มต้นสร้างแผนภาพโมเดลธุรกิจของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ.

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ IDG

ผู้เชี่ยวชาญของเราพร้อมให้คำแนะนำคุณอย่างเต็มที่

ติดต่อทีมผู้เชี่ยวชาญ