OUR BLOG

เจาะลึก Business Model Canvas พร้อมเคสศึกษาแบบจัดเต็ม !

The Rhythm of Protection Copyright in the Digital Music Era (9)

Business Model Canvas คืออะไร? แนวคิดและองค์ประกอบสำคัญ

หากทุกท่านยังจำได้ จากบทความก่อนหน้านี้ เจาะลึกโมเดลธุรกิจ : กุญแจความสำเร็จขององค์กร เราได้พูดถึงแนวคิดของ Business Model ไปแล้วว่าคืออะไร 

นอกจากนี้ เรายังได้กล่าวถึง คุณ Alex Osterwalder ผู้คิดค้น Business Model Canvas ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เราเข้าใจโครงสร้างธุรกิจได้อย่างชัดเจน โดยเน้นการพิจารณา 9 องค์ประกอบสำคัญ ที่จำเป็นสำหรับการดำเนินธุรกิจให้เหมาะสมและมีประสิทธิภาพในปัจจุบัน

Business Model Canvas

Business Model Canvas: 9 องค์ประกอบสำคัญที่ธุรกิจต้องรู้

หากคุณต้องการวางแผนธุรกิจให้แข็งแกร่ง Business Model Canvas คือเครื่องมือที่ช่วยให้คุณมองเห็นภาพรวมได้อย่างชัดเจน ผ่าน 9 องค์ประกอบหลัก ที่ส่งผลต่อความสำเร็จของธุรกิจ

1. พันธมิตรทางธุรกิจ (Key Partners)

“ใครช่วยให้ธุรกิจเราเติบโต?”
ไม่มีใครทำธุรกิจได้เพียงลำพัง การมีพันธมิตรช่วยเสริมทรัพยากร เช่น เงินทุน ความรู้ หรือเครือข่าย ช่วยให้ธุรกิจเดินหน้าได้เร็วขึ้น

2. กิจกรรมหลัก (Key Activities)

“สิ่งที่ต้องทำทุกวันเพื่อให้ธุรกิจเดินต่อไปคืออะไร?”
โฟกัสเฉพาะกิจกรรมสำคัญที่มีผลต่อความอยู่รอดของธุรกิจ เช่น การผลิต การตลาด หรือการให้บริการ

3. ทรัพยากรหลัก (Key Resources)

“อะไรคือสิ่งจำเป็นที่ทำให้ธุรกิจดำเนินต่อได้?”
ทรัพยากรสำคัญอาจเป็นบุคลากร เทคโนโลยี เงินทุน หรือสิทธิ์ทางปัญญาที่ทำให้ธุรกิจแตกต่างและแข่งขันได้

4. คุณค่าที่มอบให้ลูกค้า (Value Proposition)

“ทำไมลูกค้าต้องเลือกเรา?”
คุณค่าของธุรกิจมีได้ทั้ง Functional Value (เช่น คุณภาพสินค้า) และ Emotional Value (เช่น สร้างความสุขหรือความเชื่อมั่นให้ลูกค้า)

5. ความสัมพันธ์กับลูกค้า (Customer Relationship)

“สร้างความผูกพันกับลูกค้าอย่างไร?”
การดูแลลูกค้าให้ดีช่วยเพิ่มโอกาสในการซื้อซ้ำ เช่น บริการหลังการขาย โปรแกรมสะสมแต้ม หรือการสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดีย

6. กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย (Customer Segments)

“ใครคือลูกค้าของเรา?”
การเข้าใจพฤติกรรมและความต้องการของกลุ่มลูกค้าช่วยให้เราสร้างสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ได้ตรงจุด

7. ช่องทางการเข้าถึงลูกค้า (Channels)

“ลูกค้าจะเจอเราได้ที่ไหน?”
ตั้งแต่ช่องทางออนไลน์ เว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย ไปจนถึงหน้าร้าน หรือพันธมิตรทางธุรกิจ

8. แหล่งรายได้ (Revenue Streams)

“เราทำเงินจากอะไร?”
ไม่ว่าจะเป็นการขายสินค้า บริการ ค่าสมาชิก หรือโฆษณา รูปแบบรายได้ต้องสอดคล้องกับพฤติกรรมลูกค้า

9. โครงสร้างต้นทุน (Cost Structure)

“ค่าใช้จ่ายหลักของธุรกิจคืออะไร?”
การบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพช่วยเพิ่มกำไรและทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน

Business Model Canvas เป็นเครื่องมือหนึ่งที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในการเขียน Business Model ในปัจจุบัน ทำให้มีการใช้กันอย่างแพร่หลายในวงการผู้ประกอบการและบริหารธุรกิจ โดยใช้ BMC เป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์และวางแผนกลยุทธ์ เป็นเครื่องมือในการพัฒนาธุรกิจใหม่หรือผลิตภัณฑ์ใหม่ รวมไปถึงใช้ประกอบการอธิบายวิธีการทำธุรกิจต่างๆ ในปัจจุบัน  

ประโยชน์ของ Business Model Canvas

Business Model Canvas นำใช้ได้หลากหลายวัตถุประสงค์มากแต่ วัตถุประสงค์หลักจริงๆ ของ Business Model Canvas คือ ช่วยให้เราเห็นภาพรวมของธุรกิจปัจจุบันเพื่อที่องค์กรสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจให้เป็นแบบใหม่ (Business Model Shift) หรือคิดนวัตกรรมธุรกิจแบบใหม่ๆ (Business Model Innovation) ได้ในอนาคต และใช้ในการเปรียบเทียบกับคู่แข่งได้อีกด้วย 

กรณีศึกษาธุรกิจที่ใช้ Business Model Canvas แล้วประสบความสำเร็จ

After You (ธุรกิจคาเฟ่ขนมหวาน) 

After You เป็นร้านคาเฟ่ขนมหวานสัญชาติไทยที่สร้างชื่อจากเมนูยอดนิยมอย่าง ฮันนี่โทสต์ และ คากิโกริ (น้ำแข็งไสสไตล์ญี่ปุ่น) ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกตลาดคาเฟ่ของหวานในประเทศไทย

ทีมบริหาร After You ใช้แนวคิดแบบ BMC ในการวางกลยุทธ์แต่ละด้านของธุรกิจอย่างรอบด้าน เริ่มจากรับฟัง Customer Segments และปรับ Value Proposition ให้ตรงใจลูกค้าอยู่เสมอ

หลังดำเนินการไปได้ 5 ปี มีเสียงตอบรับจากลูกค้าว่าอยากได้ของหวานที่เบากว่าเดิม ทำให้ After You คิดค้นเมนูใหม่อย่างคากิโกริขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์นี้ 

ในด้าน Channels และ Customer Relationship ทางแบรนด์ได้ขยายช่องทางขายจากหน้าร้านสาขาไปสู่ช่องทางรีเทล เช่น วางจำหน่ายสินค้า After You แบบบรรจุห่อในร้านสะดวกซื้อ เพื่อเข้าถึงลูกค้าที่อยู่นอกพื้นที่สาขาร้าน

อีกทั้ง After You ยังให้ความสำคัญกับ Key Resources เช่น ระบบหลังบ้านและบุคลากร โดยสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ทำให้พนักงานมีความสุข ส่งต่อบริการที่ดีแก่ลูกค้า ซึ่งเป็นการสร้างประสบการณ์ที่แข็งแกร่งในส่วนของ Customer Relationships

ศรีจันทร์ (Srichand) – ธุรกิจเครื่องสำอางไทย

ศรีจันทร์ เป็นแบรนด์เครื่องสำอางไทยดั้งเดิมที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2491 มีชื่อเสียงจากผลิตภัณฑ์ แป้งฝุ่นสำหรับผิวหน้า ซึ่งเป็นสินค้าคลาสสิกที่อยู่คู่กับตลาดไทยมานานหลายทศวรรษ  เดิมทีศรีจันทร์เป็นที่รู้จักเฉพาะกลุ่มลูกค้ารุ่นเก่า แต่ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ได้มีการปรับโฉมธุรกิจครั้งใหญ่โดยทายาทรุ่นใหม่ ทำให้แบรนด์สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ (New Gen) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้บริหารรุ่นใหม่ของศรีจันทร์ (คุณรวิศ หาญอุตสาหะ) นำกรอบแนวคิด Business Model Canvas (BMC) มาใช้ในการ “รื้อ” และออกแบบโมเดลธุรกิจใหม่แทบทุกมิติ

Customer Segments และ Value Proposition

ให้ความสำคัญกับการทำความเข้าใจกลุ่มเป้าหมายใหม่ โดยมุ่งเน้นไปที่ สาวยุคใหม่ ที่ต้องการเครื่องสำอางคุณภาพดี ราคาจับต้องได้ จากนั้นแบรนด์ได้ปรับ Value Proposition ของสินค้าให้ทันสมัยขึ้น เช่น การพัฒนา แป้งฝุ่นสูตรใหม่ และเครื่องสำอางอื่น ๆ ที่มีเฉดสีและดีไซน์ที่เทียบเท่าแบรนด์สากล นอกจากนี้ ศรีจันทร์ยังสร้างภาพลักษณ์ใหม่โดย Collaboration กับพันธมิตรชั้นนำ เช่น การออกคอลเลกชัน Srichand x Asava ร่วมกับดีไซเนอร์แฟชั่นชื่อดัง

Channels และ Customer Relationship

ศรีจันทร์ใช้กลยุทธ์ดิจิทัลเต็มรูปแบบ โดยขยายช่องทางจำหน่าย (Channels) ไปยังร้านเครื่องสำอาง ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ รวมถึงแพลตฟอร์ม E-commerce และ Social Commerce เช่น Shopee, Lazada และ Facebook แบรนด์ยังให้ความสำคัญกับการทำตลาดผ่าน โซเชียลมีเดีย เพื่อสร้างแบรนด์และสื่อสารกับลูกค้าโดยตรง การตลาดของศรีจันทร์ยังเน้น คอนเทนต์ที่ให้ความรู้ เช่น คลิปสอนแต่งหน้า และพอดแคสต์ Mission To The Moon ของคุณรวิศเอง ซึ่งช่วยให้แบรนด์ใกล้ชิดกับลูกค้าและสร้างความไว้วางใจในตัวผลิตภัณฑ์ได้มากขึ้น

Key Activities และ Key Resources

ศรีจันทร์ลงทุนในการพัฒนา Key Activities ที่สำคัญ เช่น :

  • การวิจัยและพัฒนา (R&D): เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าด้วยการพัฒนาสูตรเครื่องสำอางใหม่ ๆ อย่างรวดเร็ว
  • การใช้ดิจิทัลและ Big Data: ในการเก็บข้อมูลลูกค้าแบบเรียลไทม์ แล้วนำมาวิเคราะห์เพื่อออกแบบผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับพฤติกรรมผู้บริโภค

การปรับปรุง Key Resources ภายในองค์กร: เช่น การนำเทคโนโลยีการผลิตสมัยใหม่มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดความสิ้นเปลือง (inefficiency) ในการดำเนินงาน และสร้างระบบหลังบ้านที่พร้อมรองรับการขยายตัวของธุรกิจ การปรับโฉมธุรกิจของศรีจันทร์ส่งผลให้แบรนด์ ฟื้นตัวและเติบโตอย่างก้าวกระโดด จากธุรกิจครอบครัวที่มีรายได้ไม่มาก กลายมาเป็นแบรนด์เครื่องสำอางกระแสหลักที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะในช่วง ปี 2552-2557 รายได้ของศรีจันทร์เพิ่มขึ้นจาก 30 ล้านบาทต่อปีเป็นกว่า 300 ล้านบาท การรีแบรนด์ครั้งใหญ่นี้ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในกรณีศึกษาความสำเร็จของ Business Model Innovation ที่สามารถพลิกฟื้นแบรนด์เครื่องสำอางไทยอายุกว่า 70 ปีให้กลับมา “เกิดใหม่” และสามารถแข่งขันกับแบรนด์สากลได้อย่างสูสี

สรุป “BMC คือเครื่องมือที่ช่วยลดความเสี่ยงในการทำธุรกิจ”

Business Model Canvas (BMC) เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการวิเคราะห์และวางแผนธุรกิจ ช่วยให้เจ้าของธุรกิจเห็นภาพรวมและความเชื่อมโยงระหว่างองค์ประกอบต่างๆ ได้อย่างชัดเจน โดยสามารถระบุจุดแข็งและจุดอ่อน รวมถึงโอกาสในการพัฒนาได้อย่างแม่นยำ

การใช้ BMC ทำให้การตัดสินใจทางธุรกิจมีข้อมูลรองรับ ลดความเสี่ยง และเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในตลาดที่มีการแข่งขันสูง ด้วยการวางแผนที่เป็นระบบและมองการณ์ไกล ทำให้ธุรกิจสามารถปรับตัวและเติบโตได้อย่างยั่งยืนในอนาคต!

Facebook
Twitter
LinkedIn
The Rhythm of Protection Copyright in the Digital Music Era (9)

Business Model Canvas คืออะไร? แนวคิดและองค์ประกอบสำคัญ

หากทุกท่านยังจำได้ จากบทความก่อนหน้านี้ เจาะลึกโมเดลธุรกิจ : กุญแจความสำเร็จขององค์กร เราได้พูดถึงแนวคิดของ Business Model ไปแล้วว่าคืออะไร 

นอกจากนี้ เรายังได้กล่าวถึง คุณ Alex Osterwalder ผู้คิดค้น Business Model Canvas ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เราเข้าใจโครงสร้างธุรกิจได้อย่างชัดเจน โดยเน้นการพิจารณา 9 องค์ประกอบสำคัญ ที่จำเป็นสำหรับการดำเนินธุรกิจให้เหมาะสมและมีประสิทธิภาพในปัจจุบัน

Business Model Canvas

Business Model Canvas: 9 องค์ประกอบสำคัญที่ธุรกิจต้องรู้

หากคุณต้องการวางแผนธุรกิจให้แข็งแกร่ง Business Model Canvas คือเครื่องมือที่ช่วยให้คุณมองเห็นภาพรวมได้อย่างชัดเจน ผ่าน 9 องค์ประกอบหลัก ที่ส่งผลต่อความสำเร็จของธุรกิจ

1. พันธมิตรทางธุรกิจ (Key Partners)

“ใครช่วยให้ธุรกิจเราเติบโต?”
ไม่มีใครทำธุรกิจได้เพียงลำพัง การมีพันธมิตรช่วยเสริมทรัพยากร เช่น เงินทุน ความรู้ หรือเครือข่าย ช่วยให้ธุรกิจเดินหน้าได้เร็วขึ้น

2. กิจกรรมหลัก (Key Activities)

“สิ่งที่ต้องทำทุกวันเพื่อให้ธุรกิจเดินต่อไปคืออะไร?”
โฟกัสเฉพาะกิจกรรมสำคัญที่มีผลต่อความอยู่รอดของธุรกิจ เช่น การผลิต การตลาด หรือการให้บริการ

3. ทรัพยากรหลัก (Key Resources)

“อะไรคือสิ่งจำเป็นที่ทำให้ธุรกิจดำเนินต่อได้?”
ทรัพยากรสำคัญอาจเป็นบุคลากร เทคโนโลยี เงินทุน หรือสิทธิ์ทางปัญญาที่ทำให้ธุรกิจแตกต่างและแข่งขันได้

4. คุณค่าที่มอบให้ลูกค้า (Value Proposition)

“ทำไมลูกค้าต้องเลือกเรา?”
คุณค่าของธุรกิจมีได้ทั้ง Functional Value (เช่น คุณภาพสินค้า) และ Emotional Value (เช่น สร้างความสุขหรือความเชื่อมั่นให้ลูกค้า)

5. ความสัมพันธ์กับลูกค้า (Customer Relationship)

“สร้างความผูกพันกับลูกค้าอย่างไร?”
การดูแลลูกค้าให้ดีช่วยเพิ่มโอกาสในการซื้อซ้ำ เช่น บริการหลังการขาย โปรแกรมสะสมแต้ม หรือการสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดีย

6. กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย (Customer Segments)

“ใครคือลูกค้าของเรา?”
การเข้าใจพฤติกรรมและความต้องการของกลุ่มลูกค้าช่วยให้เราสร้างสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ได้ตรงจุด

7. ช่องทางการเข้าถึงลูกค้า (Channels)

“ลูกค้าจะเจอเราได้ที่ไหน?”
ตั้งแต่ช่องทางออนไลน์ เว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย ไปจนถึงหน้าร้าน หรือพันธมิตรทางธุรกิจ

8. แหล่งรายได้ (Revenue Streams)

“เราทำเงินจากอะไร?”
ไม่ว่าจะเป็นการขายสินค้า บริการ ค่าสมาชิก หรือโฆษณา รูปแบบรายได้ต้องสอดคล้องกับพฤติกรรมลูกค้า

9. โครงสร้างต้นทุน (Cost Structure)

“ค่าใช้จ่ายหลักของธุรกิจคืออะไร?”
การบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพช่วยเพิ่มกำไรและทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน

Business Model Canvas เป็นเครื่องมือหนึ่งที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในการเขียน Business Model ในปัจจุบัน ทำให้มีการใช้กันอย่างแพร่หลายในวงการผู้ประกอบการและบริหารธุรกิจ โดยใช้ BMC เป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์และวางแผนกลยุทธ์ เป็นเครื่องมือในการพัฒนาธุรกิจใหม่หรือผลิตภัณฑ์ใหม่ รวมไปถึงใช้ประกอบการอธิบายวิธีการทำธุรกิจต่างๆ ในปัจจุบัน  

ประโยชน์ของ Business Model Canvas

Business Model Canvas นำใช้ได้หลากหลายวัตถุประสงค์มากแต่ วัตถุประสงค์หลักจริงๆ ของ Business Model Canvas คือ ช่วยให้เราเห็นภาพรวมของธุรกิจปัจจุบันเพื่อที่องค์กรสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจให้เป็นแบบใหม่ (Business Model Shift) หรือคิดนวัตกรรมธุรกิจแบบใหม่ๆ (Business Model Innovation) ได้ในอนาคต และใช้ในการเปรียบเทียบกับคู่แข่งได้อีกด้วย 

กรณีศึกษาธุรกิจที่ใช้ Business Model Canvas แล้วประสบความสำเร็จ

After You (ธุรกิจคาเฟ่ขนมหวาน) 

After You เป็นร้านคาเฟ่ขนมหวานสัญชาติไทยที่สร้างชื่อจากเมนูยอดนิยมอย่าง ฮันนี่โทสต์ และ คากิโกริ (น้ำแข็งไสสไตล์ญี่ปุ่น) ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกตลาดคาเฟ่ของหวานในประเทศไทย

ทีมบริหาร After You ใช้แนวคิดแบบ BMC ในการวางกลยุทธ์แต่ละด้านของธุรกิจอย่างรอบด้าน เริ่มจากรับฟัง Customer Segments และปรับ Value Proposition ให้ตรงใจลูกค้าอยู่เสมอ

หลังดำเนินการไปได้ 5 ปี มีเสียงตอบรับจากลูกค้าว่าอยากได้ของหวานที่เบากว่าเดิม ทำให้ After You คิดค้นเมนูใหม่อย่างคากิโกริขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์นี้ 

ในด้าน Channels และ Customer Relationship ทางแบรนด์ได้ขยายช่องทางขายจากหน้าร้านสาขาไปสู่ช่องทางรีเทล เช่น วางจำหน่ายสินค้า After You แบบบรรจุห่อในร้านสะดวกซื้อ เพื่อเข้าถึงลูกค้าที่อยู่นอกพื้นที่สาขาร้าน

อีกทั้ง After You ยังให้ความสำคัญกับ Key Resources เช่น ระบบหลังบ้านและบุคลากร โดยสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ทำให้พนักงานมีความสุข ส่งต่อบริการที่ดีแก่ลูกค้า ซึ่งเป็นการสร้างประสบการณ์ที่แข็งแกร่งในส่วนของ Customer Relationships

ศรีจันทร์ (Srichand) – ธุรกิจเครื่องสำอางไทย

ศรีจันทร์ เป็นแบรนด์เครื่องสำอางไทยดั้งเดิมที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2491 มีชื่อเสียงจากผลิตภัณฑ์ แป้งฝุ่นสำหรับผิวหน้า ซึ่งเป็นสินค้าคลาสสิกที่อยู่คู่กับตลาดไทยมานานหลายทศวรรษ  เดิมทีศรีจันทร์เป็นที่รู้จักเฉพาะกลุ่มลูกค้ารุ่นเก่า แต่ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ได้มีการปรับโฉมธุรกิจครั้งใหญ่โดยทายาทรุ่นใหม่ ทำให้แบรนด์สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ (New Gen) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้บริหารรุ่นใหม่ของศรีจันทร์ (คุณรวิศ หาญอุตสาหะ) นำกรอบแนวคิด Business Model Canvas (BMC) มาใช้ในการ “รื้อ” และออกแบบโมเดลธุรกิจใหม่แทบทุกมิติ

Customer Segments และ Value Proposition

ให้ความสำคัญกับการทำความเข้าใจกลุ่มเป้าหมายใหม่ โดยมุ่งเน้นไปที่ สาวยุคใหม่ ที่ต้องการเครื่องสำอางคุณภาพดี ราคาจับต้องได้ จากนั้นแบรนด์ได้ปรับ Value Proposition ของสินค้าให้ทันสมัยขึ้น เช่น การพัฒนา แป้งฝุ่นสูตรใหม่ และเครื่องสำอางอื่น ๆ ที่มีเฉดสีและดีไซน์ที่เทียบเท่าแบรนด์สากล นอกจากนี้ ศรีจันทร์ยังสร้างภาพลักษณ์ใหม่โดย Collaboration กับพันธมิตรชั้นนำ เช่น การออกคอลเลกชัน Srichand x Asava ร่วมกับดีไซเนอร์แฟชั่นชื่อดัง

Channels และ Customer Relationship

ศรีจันทร์ใช้กลยุทธ์ดิจิทัลเต็มรูปแบบ โดยขยายช่องทางจำหน่าย (Channels) ไปยังร้านเครื่องสำอาง ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ รวมถึงแพลตฟอร์ม E-commerce และ Social Commerce เช่น Shopee, Lazada และ Facebook แบรนด์ยังให้ความสำคัญกับการทำตลาดผ่าน โซเชียลมีเดีย เพื่อสร้างแบรนด์และสื่อสารกับลูกค้าโดยตรง การตลาดของศรีจันทร์ยังเน้น คอนเทนต์ที่ให้ความรู้ เช่น คลิปสอนแต่งหน้า และพอดแคสต์ Mission To The Moon ของคุณรวิศเอง ซึ่งช่วยให้แบรนด์ใกล้ชิดกับลูกค้าและสร้างความไว้วางใจในตัวผลิตภัณฑ์ได้มากขึ้น

Key Activities และ Key Resources

ศรีจันทร์ลงทุนในการพัฒนา Key Activities ที่สำคัญ เช่น :

  • การวิจัยและพัฒนา (R&D): เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าด้วยการพัฒนาสูตรเครื่องสำอางใหม่ ๆ อย่างรวดเร็ว
  • การใช้ดิจิทัลและ Big Data: ในการเก็บข้อมูลลูกค้าแบบเรียลไทม์ แล้วนำมาวิเคราะห์เพื่อออกแบบผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับพฤติกรรมผู้บริโภค

การปรับปรุง Key Resources ภายในองค์กร: เช่น การนำเทคโนโลยีการผลิตสมัยใหม่มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดความสิ้นเปลือง (inefficiency) ในการดำเนินงาน และสร้างระบบหลังบ้านที่พร้อมรองรับการขยายตัวของธุรกิจ การปรับโฉมธุรกิจของศรีจันทร์ส่งผลให้แบรนด์ ฟื้นตัวและเติบโตอย่างก้าวกระโดด จากธุรกิจครอบครัวที่มีรายได้ไม่มาก กลายมาเป็นแบรนด์เครื่องสำอางกระแสหลักที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะในช่วง ปี 2552-2557 รายได้ของศรีจันทร์เพิ่มขึ้นจาก 30 ล้านบาทต่อปีเป็นกว่า 300 ล้านบาท การรีแบรนด์ครั้งใหญ่นี้ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในกรณีศึกษาความสำเร็จของ Business Model Innovation ที่สามารถพลิกฟื้นแบรนด์เครื่องสำอางไทยอายุกว่า 70 ปีให้กลับมา “เกิดใหม่” และสามารถแข่งขันกับแบรนด์สากลได้อย่างสูสี

สรุป “BMC คือเครื่องมือที่ช่วยลดความเสี่ยงในการทำธุรกิจ”

Business Model Canvas (BMC) เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการวิเคราะห์และวางแผนธุรกิจ ช่วยให้เจ้าของธุรกิจเห็นภาพรวมและความเชื่อมโยงระหว่างองค์ประกอบต่างๆ ได้อย่างชัดเจน โดยสามารถระบุจุดแข็งและจุดอ่อน รวมถึงโอกาสในการพัฒนาได้อย่างแม่นยำ

การใช้ BMC ทำให้การตัดสินใจทางธุรกิจมีข้อมูลรองรับ ลดความเสี่ยง และเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในตลาดที่มีการแข่งขันสูง ด้วยการวางแผนที่เป็นระบบและมองการณ์ไกล ทำให้ธุรกิจสามารถปรับตัวและเติบโตได้อย่างยั่งยืนในอนาคต!

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ IDG

ผู้เชี่ยวชาญของเราพร้อมให้คำแนะนำคุณอย่างเต็มที่

ติดต่อทีมผู้เชี่ยวชาญ