การยื่นจดเครื่องหมายการค้าในต่างประเทศแบบการยื่นตรงเป็นกระบวนการที่สำคัญสำหรับธุรกิจที่มุ่งขยายตลาดสู่สากลและสร้างความเป็นเอกลักษณ์ให้กับสินค้าและบริการในต่างประเทศ
การดำเนินการนี้เกี่ยวข้องกับการยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าโดยตรงต่อสำนักงานทรัพย์สินทางปัญญาของแต่ละประเทศ ซึ่งแต่ละประเทศจะมีกฎหมาย ข้อกำหนด และระยะเวลาการพิจารณาที่แตกต่างกันออกไป การทำความเข้าใจเงื่อนไขและขั้นตอนของแต่ละประเทศจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยทั่วไปขั้นตอนจะประกอบด้วยการเตรียมเอกสาร การตรวจสอบความถูกต้อง และการติดตามผลการพิจารณาจากสำนักงานที่เกี่ยวข้องตามรูปภาพตัวอย่างด้านล่างนี้
1.การจัดเตรียมคำขอและการสืบค้นความเหมือนคล้าย
- การจัดเตรียมคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า ประกอบด้วยการระบุเครื่องหมายการค้าที่ต้องการจดทะเบียน ประเภทของสินค้า/บริการ รวมถึงรายการสินค้า/บริการที่ขอรับความคุ้มครอง นอกจากนี้ยังรวมถึงการดำเนินการสืบค้นความเหมือนคล้ายในประเทศนั้น ๆ เพื่อประเมินโอกาสความสำเร็จในการจดทะเบียน
2.การยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า
- การยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าจะกระทำต่อสำนักงานเครื่องหมายการค้าในแต่ละประเทศ ซึ่งผู้ยื่นคำขอจะได้รับสำเนาการยื่นคำขอ (Trademark Filing Receipt) เพื่อเป็นหลักฐานการยื่นคำขอจดทะเบียน
3.การพิจารณาคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าโดยนายทะเบียนประจำสำนักงานเครื่องหมายการค้า
- หลังจากการยื่นคำขอจดทะเบียน นายทะเบียนประจำสำนักงานเครื่องหมายการค้าในแต่ละประเทศจะพิจารณาคำขอว่ามีลักษณะที่สามารถจดทะเบียนได้หรือไม่ โดยระยะเวลาการพิจารณาจะแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ
ในกรณีที่ได้รับคำสั่งปฏิเสธการจดทะเบียน หากนายทะเบียนพิจารณาแล้วไม่สามารถรับจดทะเบียนได้นายทะเบียนจะ ออกคำสั่งปฏิเสธการจดทะเบียนมายังผู้ยื่นคำขอ ซึ่งผู้ยื่นคำขอสามารถยื่นอุทธรณ์คำสั่งปฏิเสธได้
4.การประกาศโฆษณาก่อนการจดทะเบียน
- หากนายทะเบียนพิจารณาแล้วไม่มีคำสั่งปฏิเสธ เครื่องหมายการค้าที่ขอยื่นจะเข้าสู่ขั้นตอนการประกาศโฆษณาในฐานข้อมูลเครื่องหมายการค้าของประเทศนั้น ๆ ซึ่งจะเปิดโอกาสให้บุคคลที่สามหรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียยื่นคำคัดค้านได้ หากเห็นว่าเครื่องหมายการค้าดังกล่าวไม่สมควรได้รับการจดทะเบียน
5.การรับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า
- หากไม่มีผู้คัดค้านในขั้นตอนการประกาศโฆษณา เครื่องหมายการค้าดังกล่าวจะได้รับการจดทะเบียนในประเทศนั้น ๆ โดยมีอายุความคุ้มครอง 10 ปีนับจากวันที่ยื่นคำขอหรือวันที่ได้รับจดทะเบียน ทั้งนี้สามารถต่ออายุได้ทุก ๆ 10 ปีก่อนวันครบกำหนดต่ออายุ
ทำไมต้องเลือกจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าผ่านระบบมาดริด?
ระบบมาดริด คือระบบสากลที่อำนวยความสะดวกในการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในหลายประเทศพร้อมกันผ่านสำนักงานทรัพย์สินทางปัญญาแห่งเดียว ทำให้ผู้ประกอบการประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายในการยื่นคำขอจดทะเบียนในแต่ละประเทศสามารถเช็คประเทศสามาชิกที่สามารถยื่นคำขอผ่านระบบมาดริด
เมื่อใดควรเลือกใช้ระบบมาดริด ?
- ต้องการขยายธุรกิจไปยังหลายประเทศ: หากคุณวางแผนจะขยายธุรกิจไปยังหลายประเทศในอนาคต การจดทะเบียนผ่านระบบมาดริดจะเป็นตัวเลือกที่ดี
- ต้องการปกป้องแบรนด์ของคุณอย่างครอบคลุม: การจดทะเบียนผ่านระบบมาดริดจะช่วยให้คุณปกป้องแบรนด์ของคุณได้อย่างทั่วถึงในหลายประเทศ
- ต้องการประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย: หากคุณต้องการลดขั้นตอนที่ซับซ้อนและประหยัดค่าใช้จ่ายในการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า ระบบมาดริดเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ
เลือกยื่นจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าแบบไหนดี? ตรงหรือมาดริด?
การตัดสินใจว่าจะยื่นจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าแบบตรงหรือผ่านระบบมาดริดนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ:
- จำนวนประเทศที่ต้องการจดทะเบียน: หากต้องการจดทะเบียนในหลายประเทศพร้อมกัน ระบบมาดริดจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า เนื่องจากสะดวก รวดเร็ว และประหยัดค่าใช้จ่าย
- งบประมาณ: ค่าใช้จ่ายในการจดทะเบียนแต่ละวิธีแตกต่างกัน โดยระบบมาดริดอาจมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นสูงกว่า แต่ในระยะยาวอาจประหยัดกว่าหากจดทะเบียนหลายประเทศ
- ความเร่งด่วน: หากต้องการความรวดเร็วในการจดทะเบียนในประเทศใดประเทศหนึ่ง การยื่นจดทะเบียนตรงอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
- ความซับซ้อนของเครื่องหมายการค้า: เครื่องหมายการค้าบางประเภทอาจมีข้อจำกัดในการยื่นจดทะเบียนผ่านระบบมาดริด
ติดต่อทีมเครื่องหมายการค้าเเละลิขสิทธิ์ :
โทร : 02-011-7161 ติดต่อ 104
E-mail : [email protected]
เปิดทำการวันจันทร์ – วันเสาร์ เวลา 09:00 – 18:00 น