Company Profile เปรียบเสมือนใบหน้าของธุรกิจ เอกสารชิ้นสำคัญที่บ่งบอกถึงตัวตน จุดแข็ง และความน่าเชื่อถือ การมี Company Profile ที่ดี เปรียบเสมือนการมีประตูสู่โอกาสทางธุรกิจ ดึงดูดลูกค้า สร้างความสัมพันธ์ และนำไปสู่ความสำเร็จ ซึ่งเราเคยพูดถึงมาบ้างแล้ว
แต่การจะสร้าง Company Profile ที่โดนใจ จำเป็นต้องมีข้อมูลที่ครบถ้วน ถูกต้อง และนำเสนอได้อย่างมีประสิทธิภาพ บทความนี้ จะพาทุกท่านไปรู้จักกับข้อมูลสำคัญที่ต้องเตรียม เพื่อสร้าง Company Profile ที่สมบูรณ์แบบ
เรามาเริ่มทำ Checklist กันเลย
1.ข้อมูลทั่วไปของบริษัท เราเปิดมาด้วยข้อมูลบริษัท ก็เหมือนกับการแนะนำว่าเราเป็นใคร ให้คนที่ได้อ่านได้ทำความรู้จักเราในเบื่องต้น เช่น
- ชื่อบริษัท
- ที่อยู่
- ข้อมูลการติดต่อ (เบอร์โทรศัพท์ อีเมล เว็บไซต์)
- ประเภทธุรกิจ
- ประวัติความเป็นมา
2.สินค้า และ บริการ และเราก็มาถึงจุดที่สำคัญอีกหนึ่งจุด เมื่อเราแนะนำตัวไปแล้วที่นี้เราต้องแนะนำตัวเองว่าเราทำอะไรได้บ้าง หรือ เราจะขายอะไร อธิบายรายละเอียด จุดเด่น และประโยชน์ของสินค้า บริการ ของธุรกิจเน้นความแตกต่าง จุดขาย และสิ่งที่ทำให้ธุรกิจของคุณเหนือกว่าคู่แข่ง
3.จุดแข็ง และ ความได้เปรียบทางธุรกิจ เป็นการขายตัวตนของธุรกิจของคุณเพื่อให้คนอ่านได้เห็นความแตกต่างอธิบายจุดแข็ง จุดเด่น ศักยภาพ และสิ่งที่ทำให้ธุรกิจของคุณแตกต่างเน้นความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ เทคโนโลยี หรือทรัพยากรที่มีอยู่
4.กลุ่มลูกค้า รางวัล และ การรับรอง
แสดงลูกค้าที่ไว้วางใจ รางวัล ใบรับรอง หรือมาตรฐานที่ธุรกิจได้รับ สื่อถึงความน่าเชื่อถือ คุณภาพ และความเป็นมืออาชีพ
5.ข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
- ข้อมูลเกี่ยวกับพันธมิตรทางธุรกิจ
- ข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรม CSR หรือความรับผิดชอบต่อสังคม
- ข้อมูลเกี่ยวกับแผนการเติบโต อนาคต และเป้าหมายของธุรกิจ
หัวข้อใน Checklist ของเราในครั้งนี้เพื่อเป็นแนวทางของผู้ที่กำลังสนใจทำ Company Profile มีแนวทางคร่าว ๆ ในการทำ Company Profile แต่คุณอาจจะมี หรือ ไม่มีบางหัวข้อในนี้ หรือมีสิ่งที่เพิ่มเติมมาก็ได้เพื่อที่จะดึงจุดเด่นของธุรกิจของคุณออกมาให้ได้มากที่สุด
เมื่อเรามีข้อมูลครบถ้วนแล้วเราไป เตรียมตัวทำ Company Profile กัน
Company Profile ที่มีข้อมูลครบถ้วนอาจจะไม่สามารถดึงดูดได้มากพอเรามาเริ่มออกแบบกันดีกว่า
1.รูปแบบ Company Profile การเลือกรูปแบบขึ้นอยู่กับการใช้งานของธุรกิจของเรา อย่างเช่น ธุรกิจที่ออกไปพบเจอลูกค้าบ่อย ๆ อาจจะเหมาะกับ รูปแบบสิ่งพิมพ์ เพราะลูกค้าสามารถเปิดได้ทันที แต่ถ้าธุรกิจของเราไม่จำเป็นต้องออกไปข้างนอกบ่อย ๆ การมีรูปแบบ media ก็อาจจะสะดวกสบายกับการส่งต่อมากกว่า
รูปแบบของ Company Profile จึงเป็นสิ่งที่ขึ้นอยู่กับการใช้งาน หรือความต้องการ ของธุรกิจเราว่าเราต้องการแบบใด
2.โลโก้ หรือ อัตลักษณ์องค์กร การนำโลโก้มาอยู่ใน Company Profile เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้แน่ ๆ เพราะเป็นการพรีเซนต์ตัวตนของธุรกิจเพื่อให้ลูกค้าจดจำได้ และหากว่าเรามี CI หรือ อัตลักษณ์องค์กร ก็จะเป็นสิ่งที่ช่วยให้การออกแบบ Company profile ของเราเป็นไปในทิศทางที่ธุรกิจของเราต้องการได้ง่ายยิ่งขึ้น
3.สี ปกติสีของ Company profile จะอ้างอิงจาก CI ของแบรนด์เพื่อเพิ่มการจดจำให้กับลูกค้าที่ได้อ่าน Company Profile ของเรา
4.รูปภาพ การเตรียมภาพของเราเอาไว้เพิ่มประกอบ Company profile เป็นการทำให้ลูกค้าสามารถเห็นภาพสินค้าและบริการของเราได้ดีมากยิ่งขึ้น และสามารถนำรูปภาพมาตกแต่ง Company profile ได้อีกด้วย
เมื่อเราได้แนวทางในการออกแบบแล้วเราก็สามารถออกแบบ Company Profile ที่เราต้องการได้ง่ายยิ่งขึ้นและตรงประเด็น ดึงดูดความสนใจ สร้างความประทับใจ และนำไปสู่โอกาสทางธุรกิจที่เหนือกว่า
หากท่านต้องการข้อมูลเพิ่มเติม หรือต้องการปรึกษาด้านการออกแบบ Company Profile และ Website สามารถติดต่อ IDG Design เรามีทีมนักออกแบบผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้คำปรึกษา ฟรี!
รายละเอียด : เเพ็กเกจออกเเบบ Company Profile
เรายินดีให้คำปรึกษาด้านการออกแบบเพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้กับแบรนด์และธุรกิจของคุณ
ติดต่อทีมออกแบบ : 02-011-7161 ต่อ 202
E-mail : [email protected]
Line : @idgthailand