WIPO นำเสนอว่าการเกิดนวัตกรรม เกิดขึ้นในรูปแบบของจุดศูนย์รวมนวัตกรรม (Innovation Hotspots) แล้วจึงแพร่กระจายไปยังพื้นที่อื่น ๆ โดยจุดศูนย์รวมนวัตกรรม (Innovation Hotspots) เกิดขึ้นจากปัจจัยหลัก 3 ข้อ ได้แก่
1. แรงงานที่มีความสามารถ – จากการศึกษาพบว่า ในเขตของสหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรปที่มีแรงงานที่ได้รับการศึกษาในระดับอุดมศึกษา มีรายได้เฉลี่ย และผลสัมฤทธิ์ด้านนวัตกรรมสูงกว่าบริเวณอื่น ๆ ซึ่งแรงงานที่มีความสามารถต่างกัน มักจะกระจุกรวมกันในบริเวณที่ต่างกันไป เนื่องจากคนเหล่านี้มาหาสังคมของผู้ที่มีความสามารถเดียวกันเพื่อพัฒนาตนเอง การซ้อนทับกันของจุดศูนย์รวมของแรงงานที่มีความสามารถต่างกัน อาจทำให้เกิดความร่วมมือในการสร้างนวัตกรรมขึ้นได้
2. ปัจจัยของตลาด – บริเวณที่มีการกระจุกตัวของอุตสาหกรรมมีความได้เปรียบกว่าบริเวณอื่น เนื่องจากมี economy of scale อุตสาหกรรมที่มีความเฉพาะเจาะจงจึงเกิดขึ้นตามบริเวณต่าง ๆ
3. การถ่ายทอดความรู้ – การถ่ายทอดองค์ความรู้ระหว่างภาคเอกชน หรือการถ่ายทอดองค์ความรู้จากภาคการศึกษาทำให้เกิดการสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ
และปัจจัยทั้ง 3 นี้เอง ก็เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดการแพร่กระจายของนวัตกรรมเช่นกัน เช่น การเคลื่อนย้ายของแรงงานที่มีความสามารถ การย้ายฐานการผลิตของบริษัทที่พัฒนานวัตกรรม หรือ การถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับบุคคล หรือองค์กรอื่นนอกจุดศูนย์รวมนวัตกรรม
ในปี ค.ศ. 2019 WIPO ได้ทำการวิเคราะห์หา Innovation Hotspots ที่มีอยู่ทั่วโลกโดยอาศัยข้อมูลสิทธิบัตรและข้อมูลวารสารการวิจัย และพบว่า