OUR BLOG

R&D สิ่งที่คุณอาจมองข้ามก่อนลงทุนในยุคที่บริษัทเติบโตด้วยนวัตกรรม

banner R&D บอกอะไรได้บ้าง และ impact กับการลงทุนมากแค่ไหน? อย่างที่ทุกคนทราบ นักลงทุนทุกคนจะศึกษาข้อมูลของบริษัทรวมถึงสตาร์ทอัพ (start up) ที่สนใจที่จะลงทุนอยู่แล้ว โดยเฉพาะในเรื่องของสถานภาพทางการเงิน กำไร-ขาดทุน กระแสเงินสด ธุรกิจ การลงทุนจากบริษัทอื่น ๆ เช่น 7.jpg

TIPS  หนี้สินต่อส่วนของต้นทุน หมายถึง ค่า D/E ที่บ่งบอกว่าบริษัทมีภาระหนี้สินคิดเป็นกี่เท่าของทุนหรือส่วนของเจ้าของ (โดยนักลงทุนสามารถหาตัวเลขหนี้สินและส่วนของเจ้าของได้จากงบแสดงฐานะทางการเงินของบริษัท) กำไรสะสม หมายถึง กำไรจากการค้าขายของบริษัทที่ไม่ได้จ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้น กระแสเงินสดสุทธิจากการปฏิบัติงาน หมายถึง กระแสเงินสดจากกิจกรรมหลักที่ก่อให้เกิดรายได้แลค่าใช้จ่ายของกิจการ เป็นผลมาจากรายการต่าง ๆ ที่ใช้ในการคำนวณกำไรหรือขาดทุน สะท้อนถึงเงินสดที่แท้จริงจากกิจกรรมดำเนินงาน

แต่เรื่องหนึ่งที่นักลงทุนหลาย ๆ คนอาจมองข้ามไปก็คือการศึกษาข้อมูล R&D ทำไมเราถึงต้องให้ความสำคัญกับการศึกษาข้อมูล R&D ? จากการให้ความสำคัญกับข้อมูลการเงินและการลงทุน ทำให้เห็นว่านักลงทุนทุกคนอยากลงทุนกับบริษัทที่มีงบการเงินอยู่ในเกณฑ์ดี มีกำไรสุทธิเฉลี่ยที่ดีถึงแม้ว่าจะมีการนำเงินไปขยายการผลิตบ้าง หลาย ๆ คนอาจมองว่า R&D อาจเป็นแค่ทีมทีมหนึ่งในบริษัท หากลองคิดตามความเป็นจริง R&D นั้นถือได้ว่าเป็นรากฐานสำคัญมากทีเดียว เพราะต่อให้บริษัทมีทีมการตลาดที่เก่งมากแค่ไหน หากสินค้าที่ผลิตออกมาไม่ตอบโจทย์ผู้บริโภค ไม่มีความโดดเด่น ประสิทธิภาพสู้คู่แข่งไม่ได้ก็คงไม่มีคนซื้อ ดังนั้นการศึกษาข้อมูล R&D ก็ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ควรศึกษาก่อนลงทุน การศึกษาข้อมูลที่ได้จากงานวิจัยในบริษัทต่าง ๆ ทำให้เราเห็นถึง

  • สิ่งที่บริษัทกำลังพัฒนา และสามารถคาดการณ์ได้ว่าสิ่งนั้นจะตอบโจทย์ความต้องการของคนในตลาดมากแค่ไหน ผลิตภัณฑ์นั้นจะทำให้บริษัทสามารถขยายฐานลูกค้าได้หรือไม่ เพราะผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ขายตามท้องตลาดนั้นล้วนเกิดมาจากการวิจัยทั้งสิ้น
  • การนำข้อมูลการวิจัยและพัฒนาเพื่อเข้าถึงแหล่งเงินทุน การขอทุนจากหน่วยงานต่าง ๆ และสามารถใช้สำหรับยื่นขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินได้อีกด้วย
  • การพัฒนาภายในองค์กร เช่น การพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อลดต้นทุนการผลิต หรือการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ตลอดจนนำไปสู่การเพิ่มความสามารถในการแข่งขันกับบริษัทอื่น ๆ ได้

การศึกษา R&D นั้นเราอาจศึกษาได้จากหน้าเว็บ หรือ Annual report ว่ามีการจัดสรรเงินไปวิจัยและพัฒนากี่เปอร์เซ็นต์ ซึ่งตัวเลขดังกล่าวจะแสดงให้เห็นถึงความเข้มข้นของการวิจัย อย่างไรก็ตามการที่เราดูแค่ตัวเลขเราก็ไม่สามารถรู้ได้ว่าบริษัทวิจัยเทคโนโลยีอะไรกันอยู่ ดังนั้นทาง IDG ขอพูดถึงคำว่า “การวิเคราะห์ข้อมูลจากสิทธิบัตร” เพราะจำนวนสิทธิบัตรในบริษัทสามารถสะท้อนถึงปริมาณและคุณภาพของงานวิจัย และสิทธิบัตรยังเป็นสิ่งที่ยืนยันสำหรับบริษัท ว่าสิทธิของผู้เป็นเจ้าของเท่านั้นที่สามารถผลิตสินค้าและจัดจำหน่ายสินค้าแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งนักลงทุนทุกคนสามารถใช้ข้อมูลเหล่านี้ประกอบการตัดสินใจก่อนการลงทุนได้           หากนักลงทุนหรือบริษัทที่มีความสนใจจะลงทุนกับบริษัทอื่น ๆ สามารถติดต่อสอบถามกับทาง IDG ได้ ทาง IDG มีนักวิเคราะห์สิทธิบัตรที่มีความเชี่ยวชาญและพร้อมเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยหาโอกาสในการพัฒนาธุรกิจของคุณ ติดต่อเราเพื่อสอบถามรายละเอียด

 ที่มา : https://www.thaibma.or.th/EN/Investors/Individual/Blog/2019/11012019.aspx https://www.mrlikestock.com/2018/งบกระแสเงินสด/

Facebook
Twitter
LinkedIn

บทความล่าสุด

banner R&D บอกอะไรได้บ้าง และ impact กับการลงทุนมากแค่ไหน? อย่างที่ทุกคนทราบ นักลงทุนทุกคนจะศึกษาข้อมูลของบริษัทรวมถึงสตาร์ทอัพ (start up) ที่สนใจที่จะลงทุนอยู่แล้ว โดยเฉพาะในเรื่องของสถานภาพทางการเงิน กำไร-ขาดทุน กระแสเงินสด ธุรกิจ การลงทุนจากบริษัทอื่น ๆ เช่น 7.jpg

TIPS  หนี้สินต่อส่วนของต้นทุน หมายถึง ค่า D/E ที่บ่งบอกว่าบริษัทมีภาระหนี้สินคิดเป็นกี่เท่าของทุนหรือส่วนของเจ้าของ (โดยนักลงทุนสามารถหาตัวเลขหนี้สินและส่วนของเจ้าของได้จากงบแสดงฐานะทางการเงินของบริษัท) กำไรสะสม หมายถึง กำไรจากการค้าขายของบริษัทที่ไม่ได้จ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้น กระแสเงินสดสุทธิจากการปฏิบัติงาน หมายถึง กระแสเงินสดจากกิจกรรมหลักที่ก่อให้เกิดรายได้แลค่าใช้จ่ายของกิจการ เป็นผลมาจากรายการต่าง ๆ ที่ใช้ในการคำนวณกำไรหรือขาดทุน สะท้อนถึงเงินสดที่แท้จริงจากกิจกรรมดำเนินงาน

แต่เรื่องหนึ่งที่นักลงทุนหลาย ๆ คนอาจมองข้ามไปก็คือการศึกษาข้อมูล R&D ทำไมเราถึงต้องให้ความสำคัญกับการศึกษาข้อมูล R&D ? จากการให้ความสำคัญกับข้อมูลการเงินและการลงทุน ทำให้เห็นว่านักลงทุนทุกคนอยากลงทุนกับบริษัทที่มีงบการเงินอยู่ในเกณฑ์ดี มีกำไรสุทธิเฉลี่ยที่ดีถึงแม้ว่าจะมีการนำเงินไปขยายการผลิตบ้าง หลาย ๆ คนอาจมองว่า R&D อาจเป็นแค่ทีมทีมหนึ่งในบริษัท หากลองคิดตามความเป็นจริง R&D นั้นถือได้ว่าเป็นรากฐานสำคัญมากทีเดียว เพราะต่อให้บริษัทมีทีมการตลาดที่เก่งมากแค่ไหน หากสินค้าที่ผลิตออกมาไม่ตอบโจทย์ผู้บริโภค ไม่มีความโดดเด่น ประสิทธิภาพสู้คู่แข่งไม่ได้ก็คงไม่มีคนซื้อ ดังนั้นการศึกษาข้อมูล R&D ก็ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ควรศึกษาก่อนลงทุน การศึกษาข้อมูลที่ได้จากงานวิจัยในบริษัทต่าง ๆ ทำให้เราเห็นถึง

  • สิ่งที่บริษัทกำลังพัฒนา และสามารถคาดการณ์ได้ว่าสิ่งนั้นจะตอบโจทย์ความต้องการของคนในตลาดมากแค่ไหน ผลิตภัณฑ์นั้นจะทำให้บริษัทสามารถขยายฐานลูกค้าได้หรือไม่ เพราะผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ขายตามท้องตลาดนั้นล้วนเกิดมาจากการวิจัยทั้งสิ้น
  • การนำข้อมูลการวิจัยและพัฒนาเพื่อเข้าถึงแหล่งเงินทุน การขอทุนจากหน่วยงานต่าง ๆ และสามารถใช้สำหรับยื่นขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินได้อีกด้วย
  • การพัฒนาภายในองค์กร เช่น การพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อลดต้นทุนการผลิต หรือการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ตลอดจนนำไปสู่การเพิ่มความสามารถในการแข่งขันกับบริษัทอื่น ๆ ได้

การศึกษา R&D นั้นเราอาจศึกษาได้จากหน้าเว็บ หรือ Annual report ว่ามีการจัดสรรเงินไปวิจัยและพัฒนากี่เปอร์เซ็นต์ ซึ่งตัวเลขดังกล่าวจะแสดงให้เห็นถึงความเข้มข้นของการวิจัย อย่างไรก็ตามการที่เราดูแค่ตัวเลขเราก็ไม่สามารถรู้ได้ว่าบริษัทวิจัยเทคโนโลยีอะไรกันอยู่ ดังนั้นทาง IDG ขอพูดถึงคำว่า “การวิเคราะห์ข้อมูลจากสิทธิบัตร” เพราะจำนวนสิทธิบัตรในบริษัทสามารถสะท้อนถึงปริมาณและคุณภาพของงานวิจัย และสิทธิบัตรยังเป็นสิ่งที่ยืนยันสำหรับบริษัท ว่าสิทธิของผู้เป็นเจ้าของเท่านั้นที่สามารถผลิตสินค้าและจัดจำหน่ายสินค้าแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งนักลงทุนทุกคนสามารถใช้ข้อมูลเหล่านี้ประกอบการตัดสินใจก่อนการลงทุนได้           หากนักลงทุนหรือบริษัทที่มีความสนใจจะลงทุนกับบริษัทอื่น ๆ สามารถติดต่อสอบถามกับทาง IDG ได้ ทาง IDG มีนักวิเคราะห์สิทธิบัตรที่มีความเชี่ยวชาญและพร้อมเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยหาโอกาสในการพัฒนาธุรกิจของคุณ ติดต่อเราเพื่อสอบถามรายละเอียด

 ที่มา : https://www.thaibma.or.th/EN/Investors/Individual/Blog/2019/11012019.aspx https://www.mrlikestock.com/2018/งบกระแสเงินสด/

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ IDG

ผู้เชี่ยวชาญของเราพร้อมให้คำแนะนำคุณอย่างเต็มที่

ติดต่อทีมผู้เชี่ยวชาญ