OUR BLOG

THAI BAYH – DOLE ACT 2021 ปลดล็อคงานวิจัยขึ้นหิ้งไปสู่ห้าง

BAYH DOLE ACT content 03 1
   ระบบนิเวศน์ของวงการวิจัยประเทศไทยกำลังจะถูกปฏิรูปอย่างเต็มรูปแบบ ! เมื่อประเทศไทยกำลังจะเริ่มใช้กฎหมาย Bayh-Dole Act หรือพระราชบัญญัติส่งเสริมการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. 2564 (Thailand Research and Innovation Utilization Promotion Act; TRIUP Act) ภายในปีหน้า (พ.ศ. 2565) หลังจากได้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 ที่ผ่านมานั่นเอง
        เนื่องจากที่ผ่านมาทางภาครัฐได้ให้ทุนสนับสนุนการวิจัยและพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง แต่ผู้รับทุนหรือนักวิจัยไม่สามารถเป็นเจ้าของผลงานวิจัยและนวัตกรรมได้เลย ด้วยข้อจำกัดด้านกฎหมายและกฎระเบียบของภาครัฐนั่นเอง จึงทำให้ประเทศไทยนั้นยังไม่มีการนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่เกิดขึ้น และ ใช้ได้จริง ไปใช้ประโยชน์เท่าที่ควรจะเป็น หรือเราจะสามารถเรียกได้ว่าเป็นที่มาของ “งานวิจัยขึ้นหิ้ง” ซึ่งเป็นปัญหาค้างคามาเป็นระยะเวลายาวนาน เนื่องจากนักวิจัยไทยที่ได้รับทุนจากมหาวิทยาลัยหรือหน่วยงานให้ทุนภาครัฐอื่น ๆ มีการเอางานวิจัยไปพัฒนาต่อยอดและใช้ประโยชน์ในอัตราที่ต่ำมากเลยทีเดียว เหตุเพราะขาดการสนับสนุนเชิงพาณิชย์หรือขาดแรงจูงใจทางด้านผลประโยชน์นั่นเองค่ะ

       แต่ทางภาครัฐได้มองเห็นปัญหาและเห็นช่องทางในการสนับสนุนงานวิจัยของนักวิทยาศาสตร์ในประเทศไทย ที่มีศักยภาพพร้อมออกสู่เชิงพาณิชย์ ให้สามารถสร้างผลงานจากหิ้งสู่ห้างได้อย่างเป็นรูปธรรม

        ดังนั้นจึงเป็นที่มาของการบังคับใช้กฎหมายฉบับนี้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ทั้งกับผู้รับทุน นักวิจัย ผู้ให้ทุน ผู้ขอใช้สิทธิในงานวิจัยในเชิงพาณิชย์ และเศรษฐกิจประเทศไทยโดยรวมเลยทีเดียว เนื่องจากจะเป็นการกระตุ้นการผลิตและพัฒนางานวิจัยในเชิงพาณิชย์อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งจะก่อให้เกิดการจ้างงานและกระจายรายได้ในประเทศอีกด้วย ซึ่งจะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศไทยอย่างเห็นได้ชัด

สาระสำคัญของ พ.ร.บ.ส่งเสริมการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. 2564 มีดังต่อไปนี้

  • กำหนดให้ผู้รับทุนหรือนักวิจัยสามารถเป็นเจ้าของผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่เกิดจากเงินสนับสนุนของภาครัฐได้
  • กำหนดกลไกการบริหารจัดการและติดตามการนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์
  • กำหนดมาตรการบังคับใช้สิทธิโดยรัฐในกรณีจำเป็นเพื่อประโยชน์สาธารณะ

       แต่อย่างไรก็ตามบุคคลที่จะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับกฎหมายฉบับนี้จะต้องมีหน้าที่ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์และข้อกำหนดต่างๆที่กฎหมายกำหนดตามมาด้วยไม่ว่าจะเป็นทางหน่วยงานให้ทุน ผู้รับทุน นักวิจัย บุคคลภายนอกที่ขอใช้สิทธิในงานวิจัยในเชิงพาณิชย์ค่ะ

 

ในตอนนี้เรามีโครงการ TSLP Technology Seeker Leadership Program By IPACE) โครงการเพื่อปลุกปั้นนักแสวงหาเทคโนยีมืออาชีพทุกคน ฟรี !! ไม่มีค่าใช้จ่าย

โครงการ #TSLP คืออะไร ?

ทางทีมงาน IPACE (By IDG) จัดโครงการนี้เพื่อเป็นโครงการเชื่อมโยงความต้องการ “เทคโนโลยี” ของผู้ประกอบการ หรือบริษัทต่าง ๆ เข้ากับเทคโนโลยีซึ่งเกิดจากการศึกษาวิจัยภายในประเทศไทย

ประโยชน์ที่จะได้รับ :

ช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่นักแสวงหาเทคโนโลยีได้ประสบพบเจอ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการวิเคราะห์เทคโนโลยีใหม่ ๆ รวมถึง ตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา, ขั้นตอนซื้อ-ขายเทคโนโลยี และ การสร้างธุรกิจ

รับข้อมูลด้านเทคโนโลยีตามความต้องการอย่างเฉพาะเจาะจง รวมทั้งสิทธิในการรับคำปรึกษาเบื้องต้นในด้านทรัพย์สินทางปัญญาตามความต้องการ (เช่น: ลิขสิทธิ์, เครื่องหมายการค้า, ความลับทางการค้า หรือสิทธิบัตร เป็นต้น)

การให้คำปรึกษาเชิงลึก โดยผู้เชี่ยวชาญด้านทรัพย์สินทางปัญญา และ เทคโนโลยี

แนวทางการเจรจา เมื่อต้องไปติดต่อกับเจ้าของเทคโนโลยี

วิธีการประเมินผลงานวิจัย/เทคโนโลยี ในมุมมองของ Global Market

 

หากท่านใดสนใจต้องการรับคำปรึกษาเพิ่มเติมในด้านสิทธิบัตรทาง IDG มีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาทุกท่าน

โทร: 02-011-7161 ถึง 6 (ติดต่อ 301 – 304) ฝ่ายสิทธิบัตร

E-Mail: [email protected]

Line: @idgthailand

 

Facebook
Twitter
LinkedIn

บทความล่าสุด

BAYH DOLE ACT content 03 1
   ระบบนิเวศน์ของวงการวิจัยประเทศไทยกำลังจะถูกปฏิรูปอย่างเต็มรูปแบบ ! เมื่อประเทศไทยกำลังจะเริ่มใช้กฎหมาย Bayh-Dole Act หรือพระราชบัญญัติส่งเสริมการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. 2564 (Thailand Research and Innovation Utilization Promotion Act; TRIUP Act) ภายในปีหน้า (พ.ศ. 2565) หลังจากได้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 ที่ผ่านมานั่นเอง
        เนื่องจากที่ผ่านมาทางภาครัฐได้ให้ทุนสนับสนุนการวิจัยและพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง แต่ผู้รับทุนหรือนักวิจัยไม่สามารถเป็นเจ้าของผลงานวิจัยและนวัตกรรมได้เลย ด้วยข้อจำกัดด้านกฎหมายและกฎระเบียบของภาครัฐนั่นเอง จึงทำให้ประเทศไทยนั้นยังไม่มีการนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่เกิดขึ้น และ ใช้ได้จริง ไปใช้ประโยชน์เท่าที่ควรจะเป็น หรือเราจะสามารถเรียกได้ว่าเป็นที่มาของ “งานวิจัยขึ้นหิ้ง” ซึ่งเป็นปัญหาค้างคามาเป็นระยะเวลายาวนาน เนื่องจากนักวิจัยไทยที่ได้รับทุนจากมหาวิทยาลัยหรือหน่วยงานให้ทุนภาครัฐอื่น ๆ มีการเอางานวิจัยไปพัฒนาต่อยอดและใช้ประโยชน์ในอัตราที่ต่ำมากเลยทีเดียว เหตุเพราะขาดการสนับสนุนเชิงพาณิชย์หรือขาดแรงจูงใจทางด้านผลประโยชน์นั่นเองค่ะ

       แต่ทางภาครัฐได้มองเห็นปัญหาและเห็นช่องทางในการสนับสนุนงานวิจัยของนักวิทยาศาสตร์ในประเทศไทย ที่มีศักยภาพพร้อมออกสู่เชิงพาณิชย์ ให้สามารถสร้างผลงานจากหิ้งสู่ห้างได้อย่างเป็นรูปธรรม

        ดังนั้นจึงเป็นที่มาของการบังคับใช้กฎหมายฉบับนี้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ทั้งกับผู้รับทุน นักวิจัย ผู้ให้ทุน ผู้ขอใช้สิทธิในงานวิจัยในเชิงพาณิชย์ และเศรษฐกิจประเทศไทยโดยรวมเลยทีเดียว เนื่องจากจะเป็นการกระตุ้นการผลิตและพัฒนางานวิจัยในเชิงพาณิชย์อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งจะก่อให้เกิดการจ้างงานและกระจายรายได้ในประเทศอีกด้วย ซึ่งจะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศไทยอย่างเห็นได้ชัด

สาระสำคัญของ พ.ร.บ.ส่งเสริมการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. 2564 มีดังต่อไปนี้

  • กำหนดให้ผู้รับทุนหรือนักวิจัยสามารถเป็นเจ้าของผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่เกิดจากเงินสนับสนุนของภาครัฐได้
  • กำหนดกลไกการบริหารจัดการและติดตามการนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์
  • กำหนดมาตรการบังคับใช้สิทธิโดยรัฐในกรณีจำเป็นเพื่อประโยชน์สาธารณะ

       แต่อย่างไรก็ตามบุคคลที่จะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับกฎหมายฉบับนี้จะต้องมีหน้าที่ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์และข้อกำหนดต่างๆที่กฎหมายกำหนดตามมาด้วยไม่ว่าจะเป็นทางหน่วยงานให้ทุน ผู้รับทุน นักวิจัย บุคคลภายนอกที่ขอใช้สิทธิในงานวิจัยในเชิงพาณิชย์ค่ะ

 

ในตอนนี้เรามีโครงการ TSLP Technology Seeker Leadership Program By IPACE) โครงการเพื่อปลุกปั้นนักแสวงหาเทคโนยีมืออาชีพทุกคน ฟรี !! ไม่มีค่าใช้จ่าย

โครงการ #TSLP คืออะไร ?

ทางทีมงาน IPACE (By IDG) จัดโครงการนี้เพื่อเป็นโครงการเชื่อมโยงความต้องการ “เทคโนโลยี” ของผู้ประกอบการ หรือบริษัทต่าง ๆ เข้ากับเทคโนโลยีซึ่งเกิดจากการศึกษาวิจัยภายในประเทศไทย

ประโยชน์ที่จะได้รับ :

ช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่นักแสวงหาเทคโนโลยีได้ประสบพบเจอ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการวิเคราะห์เทคโนโลยีใหม่ ๆ รวมถึง ตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา, ขั้นตอนซื้อ-ขายเทคโนโลยี และ การสร้างธุรกิจ

รับข้อมูลด้านเทคโนโลยีตามความต้องการอย่างเฉพาะเจาะจง รวมทั้งสิทธิในการรับคำปรึกษาเบื้องต้นในด้านทรัพย์สินทางปัญญาตามความต้องการ (เช่น: ลิขสิทธิ์, เครื่องหมายการค้า, ความลับทางการค้า หรือสิทธิบัตร เป็นต้น)

การให้คำปรึกษาเชิงลึก โดยผู้เชี่ยวชาญด้านทรัพย์สินทางปัญญา และ เทคโนโลยี

แนวทางการเจรจา เมื่อต้องไปติดต่อกับเจ้าของเทคโนโลยี

วิธีการประเมินผลงานวิจัย/เทคโนโลยี ในมุมมองของ Global Market

 

หากท่านใดสนใจต้องการรับคำปรึกษาเพิ่มเติมในด้านสิทธิบัตรทาง IDG มีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาทุกท่าน

โทร: 02-011-7161 ถึง 6 (ติดต่อ 301 – 304) ฝ่ายสิทธิบัตร

E-Mail: [email protected]

Line: @idgthailand

 

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ IDG

ผู้เชี่ยวชาญของเราพร้อมให้คำแนะนำคุณอย่างเต็มที่

ติดต่อทีมผู้เชี่ยวชาญ