ข้อพิพาทด้านทรัพย์สินทางปัญญา คืออะไร
ข้อพิพาทด้านทรัพย์สินทางปัญญา หมายถึง ข้อขัดแย้งเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญาทุกประเภท ซึ่งหมายรวมถึง สิทธิบัตร เครื่องหมายการค้า ลิขสิทธิ์ ผังภูมิวงจรรวม ความลับทางการค้า สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ การคุ้มครองพันธุ์พืช และยังรวมถึงประเด็นอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินทางปัญญา เช่น สัญญาค่าตอบแทนการใช้ลิขสิทธิ์ สัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิตามสิทธิบัตรหรือเครื่องหมายการค้า เป็นต้นการระงับข้อพิพาท หมายถึงการที่คู่พิพาทเลือกที่จะระงับข้อพิพาทโดยไม่นำคดีขึ้นสู่ศาล ในทางสากลเรียกกระบวนการนี้ว่า การระงับข้อพิพาททางเลือกกรมทรัพย์สินทางปัญญาได้กำหนดกระบวนการระงับข้อพิพาทเป็น 2 ประเภท คือ::การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท– การระงับข้อพิพาทโดย คู่กรณี ยินดีให้ กรมทรัพย์สินทางปัญญาดำเนินการเป็นผู้ไกล่เกลี่ย (ไม่มีคำชี้ขาดใดๆ)– กระบวนการการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท กรมทรัพย์สินทางปัญญาดำเนินการเป็นผู้ไกล่เกลี่ย โดยคู่พิพาทไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ::::การอนุญาโตตุลาการ (Arbitration)– การระงับข้อพิพาทโดย คู่กรณีมอบข้อพิพาทให้บุคคลที่สาม (อนุญาโตตุลาการ) วินิจฉัยชี้ขาดซึ่งคำวินิจฉัยของบุคคลที่สาม (อนุญาโตตุลาการ) นี้ คู่กรณีตกลงกันที่จะผูกพันที่จะปฏิบัติตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ– กระบวนการอนุญาโตตุลาการ จะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการวางหลักประกันค่าป่วยการอนุญาโตตุลาการ ซึ่งกำหนดตามทุนทรัพย์ที่คู่พิพาทเรียกร้อง
กระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท
ขั้นตอนพิจารณาของอนุญาโตตุลาการ
คู่กรณีตกลงกันที่จะใช้กระบวนการอนุญาโตตุลาการเพื่อระงับข้อพิพาท
ด้วยกรมทรัพย์สินทางปัญญาได้จัดตั้ง “สำนักงานป้องกันและระงับข้อพิพาทด้านทรัพย์สินทางปัญญา” ขึ้น เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาด้านทรัพย์สินทางปัญญาที่เกิดขึ้นและอำนวยความสะดวกในการระงับข้อพิพาทให้แก่คู่พิพาทโดยการใช้กระบวนการอนุญาโตตุลาการ การประนอมข้อพิพาท และการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ซึ่งจะเป็นผลดีแก่คู่พิพาททั้งสองฝ่ายในการช่วยยุติปัญหาที่เกิดขึ้นได้ในเวลาอันรวดเร็ว ประหยัด และเป็นธรรมข้อดีของการใช้วิธีระงับข้อพิพาทด้านทรัพย์สินทางปัญญาสะดวก
– ขั้นตอนและกระบวนการพิจารณาชี้ขาดไม่เข้มงวด เคร่งครัด หรือ มีพิธีการยุ่งยาก เหมือนการพิจารณาคดีในศาล รวดเร็ว
– การพิจารณาใช้เวลาที่สั้นและรวดเร็ว เมื่อเปรียบเทียบกับการพิจารณาในศาล ประหยัด
– คู่พิพาทไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม และค่าใช้จ่ายใดๆ ยกเว้นกรณีอนุญาโตตุลาการ เป็นธรรม
– เจ้าหน้าที่กรมทรัพย์สินทางปัญญา จะเป็นคนกลางในการไกล่เกลี่ย ทำให้การพิจารณาทำได้รวดเร็ว และเป็นธรรมแก่คู่พิพาท พึงพอใจ
– คู่พิพาทที่เป็นคู่ค้าสามารถยุติข้อพิพาทได้และรักษาชื่อเสียง และความลับระหว่างกันได้ เนื่องจากกระบวนการเป็นความลับ อีกทั้งรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างกันไว้ได้ต่อไป เพราะคู่พิพาทไม่ต้องเผชิญหน้าต่อสู้กันเพื่อผลแพ้ชนะทางคดีเหมือนการดำเนินคดีในศาล
ข้อพิพาทด้านทรัพย์สินทางปัญญา คืออะไร
ข้อพิพาทด้านทรัพย์สินทางปัญญา หมายถึง ข้อขัดแย้งเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญาทุกประเภท ซึ่งหมายรวมถึง สิทธิบัตร เครื่องหมายการค้า ลิขสิทธิ์ ผังภูมิวงจรรวม ความลับทางการค้า สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ การคุ้มครองพันธุ์พืช และยังรวมถึงประเด็นอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินทางปัญญา เช่น สัญญาค่าตอบแทนการใช้ลิขสิทธิ์ สัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิตามสิทธิบัตรหรือเครื่องหมายการค้า เป็นต้นการระงับข้อพิพาท หมายถึงการที่คู่พิพาทเลือกที่จะระงับข้อพิพาทโดยไม่นำคดีขึ้นสู่ศาล ในทางสากลเรียกกระบวนการนี้ว่า การระงับข้อพิพาททางเลือกกรมทรัพย์สินทางปัญญาได้กำหนดกระบวนการระงับข้อพิพาทเป็น 2 ประเภท คือ::การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท– การระงับข้อพิพาทโดย คู่กรณี ยินดีให้ กรมทรัพย์สินทางปัญญาดำเนินการเป็นผู้ไกล่เกลี่ย (ไม่มีคำชี้ขาดใดๆ)– กระบวนการการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท กรมทรัพย์สินทางปัญญาดำเนินการเป็นผู้ไกล่เกลี่ย โดยคู่พิพาทไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ::::การอนุญาโตตุลาการ (Arbitration)– การระงับข้อพิพาทโดย คู่กรณีมอบข้อพิพาทให้บุคคลที่สาม (อนุญาโตตุลาการ) วินิจฉัยชี้ขาดซึ่งคำวินิจฉัยของบุคคลที่สาม (อนุญาโตตุลาการ) นี้ คู่กรณีตกลงกันที่จะผูกพันที่จะปฏิบัติตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ– กระบวนการอนุญาโตตุลาการ จะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการวางหลักประกันค่าป่วยการอนุญาโตตุลาการ ซึ่งกำหนดตามทุนทรัพย์ที่คู่พิพาทเรียกร้อง
กระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท
ขั้นตอนพิจารณาของอนุญาโตตุลาการ
คู่กรณีตกลงกันที่จะใช้กระบวนการอนุญาโตตุลาการเพื่อระงับข้อพิพาท
ด้วยกรมทรัพย์สินทางปัญญาได้จัดตั้ง “สำนักงานป้องกันและระงับข้อพิพาทด้านทรัพย์สินทางปัญญา” ขึ้น เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาด้านทรัพย์สินทางปัญญาที่เกิดขึ้นและอำนวยความสะดวกในการระงับข้อพิพาทให้แก่คู่พิพาทโดยการใช้กระบวนการอนุญาโตตุลาการ การประนอมข้อพิพาท และการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ซึ่งจะเป็นผลดีแก่คู่พิพาททั้งสองฝ่ายในการช่วยยุติปัญหาที่เกิดขึ้นได้ในเวลาอันรวดเร็ว ประหยัด และเป็นธรรมข้อดีของการใช้วิธีระงับข้อพิพาทด้านทรัพย์สินทางปัญญาสะดวก
– ขั้นตอนและกระบวนการพิจารณาชี้ขาดไม่เข้มงวด เคร่งครัด หรือ มีพิธีการยุ่งยาก เหมือนการพิจารณาคดีในศาล รวดเร็ว
– การพิจารณาใช้เวลาที่สั้นและรวดเร็ว เมื่อเปรียบเทียบกับการพิจารณาในศาล ประหยัด
– คู่พิพาทไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม และค่าใช้จ่ายใดๆ ยกเว้นกรณีอนุญาโตตุลาการ เป็นธรรม
– เจ้าหน้าที่กรมทรัพย์สินทางปัญญา จะเป็นคนกลางในการไกล่เกลี่ย ทำให้การพิจารณาทำได้รวดเร็ว และเป็นธรรมแก่คู่พิพาท พึงพอใจ
– คู่พิพาทที่เป็นคู่ค้าสามารถยุติข้อพิพาทได้และรักษาชื่อเสียง และความลับระหว่างกันได้ เนื่องจากกระบวนการเป็นความลับ อีกทั้งรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างกันไว้ได้ต่อไป เพราะคู่พิพาทไม่ต้องเผชิญหน้าต่อสู้กันเพื่อผลแพ้ชนะทางคดีเหมือนการดำเนินคดีในศาล