4 เทรนด์ Digital Transformation
สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ประจำปี 2019
ปฏิเสธไม่ได้ว่าไลฟ์สไตล์มนุษย์เราในปัจจุบันส่วนใหญ่ใช้เวลาอยู่บนโลกอินเตอร์เน็ตแทบจะตลอดเวลา เมื่อการใช้งานบนโลกออนไลน์นั้นไม่ได้มีเพียงกิจกรรมสำหรับพักผ่อนหย่อนใจเพียงอย่างเดียวแต่รวมถึงการทำงานต่าง ๆ ที่จำเป็นต้องเชื่อมโยงข้อมูลผ่านอินเตอร์เน็ต ด้วยเหตุดังกล่าว อุตสาหกรรมยานยนต์จึงจำเป็นต้องปรับตัวให้ทันกับโลกยุคดิจิตอลเช่นกัน
สำหรับปี 2019 นี้ เราจึงเห็นว่าหลาย ๆ ค่ายรถเริ่มปรับกลยุทธ์เพื่อให้ตอบโจทย์ยุคดังกล่าวให้มากที่สุด กล่าวคือ การสร้างประสบการณ์ ต่อยอดและเติมเต็มความคาดหวังให้กับผู้บริโภคให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และนี่คือ 4 เทรนด์ยุคดิจิตอลสำหรับอุตสาหกรรมรถยนต์ทั่วโลกในประจำปีนี้
1 เชื่อมโยงทุกการเคลื่อนไหว
ดูเหมือนว่าค่ายผลิตรถยนต์จะตระหนักได้แล้วว่ารถยนต์ธรรมดาๆ ไม่สามารถดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคได้อีกต่อไป เมื่อความต้องการของพวกเขาคือ การต่อติดและเชื่อมโยงทุกสิ่งในชีวิตของเขา ไม่ว่าจะเป็น โซเชียลมีเดีย เพลง แอปพลิเคชั่น เพื่อนสนิท หรือแม้แต่การทำงาน กล่าวคือ ยุคดิจิตอลนี้รถยนต์จะไม่ใช่ Dead zone ที่ผู้ขับรถยนต์หรือผู้นั่งโดยสารจะติดชะงักอยู่ในพื้นที่แคบ ๆ อย่างเบื่อหน่ายตลอดการเดินทางอีกต่อไป
สำหรับปี 2019 เราจึงเห็นรถยนต์หลากหลายค่ายที่เริ่มติดตั้งระบบ WIFI เพื่อให้สามารถเข้าถึงทุกสิ่งอย่างรวดเร็วและทันที นอกจากนั้น ผู้เชี่ยวชาญยังคาดการณ์ว่า การเติบโตของการเปลี่ยนแปลงธุรกิจจากอนาล็อกให้เป็นดิจิตอล (digitalization) จะนำมาสู่การลงทุนเพิ่มมากขึ้น 82 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2020
2 Big data สำหรับรถยนต์
จากการเชื่อมโยงข้างต้น ส่งผลให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไม่ได้เพียงแค่นำข้อมูลมากมายมหาศาลมาเพียงวิเคราะห์เพื่อหาแนวโน้มสำหรับกระบวนการในขั้นตอนธุรกิจเพียงอย่างเดียว
เมื่อ Big Data ยังถูกนำมาใส่ลงในรถยนต์เพื่อผู้บริโภค เช่น การจัดสรรรูทการเดินทาง แผนผังการจราจร ร้านอาหารร้านโปรด ปั๊มน้ำมันที่ใกล้ที่สุด จนไปถึงเพลงที่ชอบเปิดฟังบ่อย ๆ
ในปี 2019 (หรืออีกไม่กี่ปีข้างหน้า) ค่ายผลิตรถยนต์จะเริ่มนำเทคโนโลยีดังล่าวมาติดตั้งในรถยนต์ตัวเองเพิ่มมากขึ้น แม้จะยังจำเป็นต้องพิจารณาถึงความปลอดภัยในการจัดเก็บข้อมูลและการใช้ประโยชน์ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดก็ตาม
3 ความปลอดภัยบนท้องถนนกับโลกดิจิตอล
หากลองจิตนาการจะดีแค่ไหนเชียวถ้าเราสามารถมองเห็นการจราจรบนท้องถนนเบื้องหน้าเหนือรถที่บดบังวิสัยทัศน์เราอยู่ได้ หรือมองข้ามไกลออกไปเพื่อหาสาเหตุของรถติดบนท้องถนน
ปี 2019 เทคโนโลยีดังกล่าวจะไม่ได้อยู่แค่ในจิตนาการอีกต่อไป เพราะนั่นคือสิ่งที่ระบบ Augmented reality หรือ AR สามารถทำงานได้จริงที่จะช่วยปรับปรุงและพัฒนาให้รถยนต์ในอนาคตมีความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น
นอกเหนือจากนั้น ระบบ AR ยังสามารถช่วยผู้ผลิตรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็น การออกแบบดีไซน์ คำนวณต้นทุนการผลิตหรือกระบวนการผลิตต่าง ๆ ให้มีน้อยที่สุดแต่มีประสิทธิภาพสูงสุดอีกด้วย
4 แชร์/ซื้อขายผ่านโลกออนไลน์
เมื่อประสบการณ์ช้อปปิ้งออนไลน์ในปัจจุบันไม่ได้จำกัดเพียงแค่สินค้าบริโภคหรืออุปโภคอีกต่อไป เช่นตลาดรถยนต์ในทุกวันนี้ที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่ไม่นิยมเดินเข้ามาสอบถามรายละเอียดหรือเดินเข้ามาดูในโชว์รูมรถยนต์แต่มักหาข้อมูลต่าง ๆ ผ่านอินเตอร์เน็ตอย่างการอ่านหรือดูคลิปวิดีโอรีวิวรถยนต์ที่ตัวเองสนใจ
แอปพลิเคชั่นซื้อรถยนต์ผ่านสมาร์ทโฟนอย่าง Fair (https://www.fair.com/) ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเลือกรถยนต์ที่ชอบได้โดยไม่ต้องผ่านคนกลางแต่ได้รับบริการและคุณประโยชน์แบบเดียวกับซื้อผ่านโชว์รูมค่ายรถยนต์ต่าง ๆ
เช่นเดียวกับธุรกิจ car sharing หรือบริการให้เช่ารถยนต์ในระยะสั้นที่ดูมีแนวโน้มว่าจะเติบโตอย่างมากในปี 2019 ทั้งยังสามารถสร้างจุดเปลี่ยนให้กับตลาดรถยนต์ กล่าวคือ ในอนาคตข้างหน้ารถยนต์ส่วนบุคคลอาจไม่จำเป็นอีกต่อไป
อ้างอิง :
- https://www.forbes.com/sites/danielnewman/2019/01/17/top-5-digital-transformation-trends-in-automotive-for-2019/#3f7f449a15bb