น้อยคนนักที่จะไม่รู้จักผู้ชายคนนี้!
Elon Musk ฉายแววตั้งแต่อายุยังน้อยด้วยการขายซอฟแวร์เกมส์ จนกลายเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง X.com ก่อนที่จะกลายเป็น Paypal ที่ผู้คนรู้จักกันเป็นอย่างดีในปัจจุบัน นอกจากนั้นแล้ว Elon Musk ยังเป็นผู้ริเริ่มโครงการล้ำอนาคตอีกเป็นจำนวนมาก โดยเป็นทั้งผู้ก่อตั้ง Space Exploration Technologies Corp. หรือ SPACEX ซึ่งมีเป้าหมายสูงสุดคือให้มนุษย์สามารถอยู่อาศัยบนดาวเคราะห์ดวงอื่นได้ และเป็นผู้ลงทุนสำคัญใน DeepMind Technologies ซึ่งมุ่งเน้นในการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ รวมทั้งเป็นผู้ก่อตั้ง The Boring Company บริษัทด้านการขุดเจาะอุโมงค์ เจ้าของโครงการล้ำๆ อย่าง Hyperloop ซึ่งจะปฏิวัติระบบการขนส่งด้วยความเร็วที่มากกว่า 900 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
อีกเทคโนโลยีหนึ่งที่เริ่มเข้ามามีผลต่อชีวิตประจำวันของเราและจะเปลี่ยนแปลงอนาคตอันใกล้ คือการใช้รถยนต์ไฟฟ้าและพลังงานสะอาด ซึ่ง Elon Musk ก็เป็นหนึ่งในผู้ที่สนใจเทคโนโลยีด้านดังกล่าว ซึ่งทุกคนรู้จักกันดีในชื่อ Tesla ซึ่งมีทั้งรถยนต์ไฟฟ้าและโครงการพลังงานสะอาดอย่าง Solar city แม้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่าง Tesla จะมีความสมบูรณ์และได้รับความนิยมสูง แต่หากพิจารณาจริงๆแล้ว นอกจาก Tesla ก็ยังมีบริษัทอื่นในอุตสาหกรรมรถยนต์เช่นกันที่พัฒนาเทคโนโลยีในลักษณะดังกล่าวเช่นกัน
ถ้าพิจารณาในด้านสิทธิบัตรในกลุ่มของการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าหรือรถยนต์ไฮบริดพบว่ามีสิทธิบัตรรวมกันมากกว่า 46,000 ฉบับ และคาดว่าจะมีสิทธิบัตรยื่นใหม่ในปี ค.ศ.2018 สูงถึง 7,500 ฉบับ ซึ่ง 44% จากทั้งหมดเป็นการยื่นสิทธิบัตรครั้งแรกในสหรัฐอเมริกา และที่น่าจับตามองคือการยื่นสิทธิบัตรครั้งแรกในจีนซึ่งสูงถึง 19% โดยสิทธิบัตรที่เกี่ยวข้องส่วนใหญ่นั้นยื่นโดย HYUNDAI MOTOR COMPANY, TOYOTA, KIA MOTORS, GM GLOBAL TECHNOLOGY OPERATIONS นอกจากนี้ยังมีบริษัทอื่นๆ ที่อาจไม่คุ้นหูในวงการยานยนต์ซึ่งได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าวด้วยเช่นกัน ดังเช่น HITACHI, ROBERT BOSCH, SAMSUNG และ SONY1 เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม Elon Musk ผู้นำของ Tesla ได้กล่าวไว้ใน ปี ค.ศ. 2014 ว่า “All Our Patent Are Belong To You”2 โดยได้กล่าวว่า Tesla ถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อจะเร่งให้เกิดระบบการขนส่งที่ยั่งยืน Tesla จึงมีแนวทางว่าจะไม่ดำเนินการฟ้องร้องคดีต่อบุคคลใดก็ตามที่นำเทคโนโลยีของ Tesla ไปใช้โดยสุจริต ซึ่ง CEO ของ Tesla อย่าง Elon Musk มีความเชื่อมั่นว่าหลักการดังกล่าวจะเป็นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับ Tesla แม้ว่าในความจริงแล้ว Tesla จะมีสิทธิบัตรไม่มากนักแต่ก็มีการยื่นจดทะเบียนเพิ่มเติมในแต่ละปีซึ่งมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
โดยสิทธิบัตรของ Tesla นั้นมีการยื่นจดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในปี ค.ศ. 2015 ซึ่งสิทธิบัตรส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของอุปกรณ์และกระบวนการในการผลิต โดยในปี ค.ศ.2015 นั้น Tesla เองมียอดการส่งมอบรถยนต์ของ Tesla ที่สูงขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 52% โดยสิทธิบัตรอีกส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของ electrodes ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่ Tesla กำลังสร้าง Gigafactory สำหรับผลิตแบตเตอรี่ซึ่งเป็นโรงงานผลิตแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่สุดในโลกซึ่งมีการสร้างความร่วมมือกับ Panasonic และมีเป้าหมายที่จะลดต้นทุนการผลิตแบตเตอรี่ลงถึง 30%
โดยภาพรวมของสิทธิบัตรที่ได้ยื่นจดทะเบียนไว้นั้นแบ่งออกเป็นหลายเทคโนโลยีดังเช่น เรื่องของเซลล์เชื้อเพลิง, เรื่องของกระบวนการผลิต, วงจรในการชาร์จแบตเตอรี่, อิเล็กโทรด หรือแม้กระทั่งเบาะแวะที่นั่งภายในรถยนต์ของ Tesla โดยสิทธิบัตรหลายฉบับก็ถูกอ้างถึง (Cited) จากสิทธิบัตรฉบับอื่นจำนวนมาก ดังเช่น สิทธิบัตรเลขที่ประกาศโฆษณา US20140347018A1 งานประดิษฐ์ “Location Based Charging Control System” หรือสิทธิบัตรเลขที่ประกาศโฆษณา US20140121866A1 งานประดิษฐ์ “Fast charge mode for extended trip” ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับระบบการชาร์จเซลล์พลังงานไฟฟ้า
เครดิตภาพ : vanityfair.com, teslarati.com, marketeeronline.co, bloomberg.com, recode.net, tesla.com
ข้อมูลอ้างอิง:
- The Electric Vehicle Intellectual Property Report 2018 by patsnap
- https://www.tesla.com/blog/all-our-patent-are-belong-you
- รวบรวมสิทธิบัตรจาก Patsnap โดยใช้ Assignee “Tesla, Inc”
*กรณีการสืบค้นด้วยวิธีการอื่นอาจได้จำนวนไม่ตรงกัน
