นั่นหมายความว่า แนวโน้มการบริโภคของเหล่าคนโสดจึงเป็นอีกหนึ่งตลาดที่น่าจับตามองและไม่ควรมองข้าม เมื่อพวกเขาเหล่านี้ต่างให้ความสำคัญกับการพัฒนาตัวเอง ค้นคว้าหาความสุขและความหมายของชีวิตไปตลอดชั่วอายุขัยของพวกเขาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

ทำไมถึงโสด

จากข้อมูลของ Pew Research Center อธิบายถึงสาเหตุที่จำนวนประชากรครัวเรือนคนเดียวเพิ่มสูงขึ้น สืบเนื่องจากอัตราการหย่าร้างที่สูงขึ้นควบคู่ไปกับอัตราการแต่งงานที่ลดลง โดยมีสาเหตุจากที่พวกเขาเลือกที่จะอยู่ด้วยกันแต่ไม่จดทะเบียนสมรสมากขึ้น 

สถิติล่าสุดจาก US census data ปี 2012 ระบุว่าชาวอเมริกันอายุมากกว่า 25 ปีขึ้นไป กว่า 20% ยังไม่ได้แต่งงาน สอดคล้องกับการคาดการณ์ประชากรของชาวจีนที่มองว่าในปี 2030 จะมีชายชาวจีนอายุ 30 ปีขึ้นไปมากกว่าหนึ่งในสี่ที่ยังไม่แต่งงานซึ่งเป็นผลพวงมาจากนโยบายลูกคนเดียว (one-child policy) น่าสนใจกว่านั้น ในปี 2030 จำนวนครัวเรือนคนเดียวทั่วโลกมีแนวโน้มจะพุ่งสูงถึง 120 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้นจากปี 2018 มากถึง 30%

ค้นให้ลึกถึงสาเหตุที่ว่าทำไมถึงโสด จากการสำรวจของ Euromonitor International’s Lifestyles Survey ปี 2017 เผยว่า เดิมนั้นผู้คนในภูมิภาคเอเชีย ตะวันออกกลาง แอฟริกาและละตินอเมริกาส่วนใหญ่ใช้ชีวิตที่เน้นครอบครัวเป็นศูนย์กลาง (family-centric) สูง ส่งผลให้คนที่เลือกมาอยู่ตัวคนเดียวก็เพื่อหลีกหนีจากกรอบดังกล่าว ขณะที่ทางอเมริกาเหนือที่ใช้ชีวิตตัวคนเดียวกันมากขึ้นเนื่องจากเลือกงานเป็นเป้าหมายของชีวิต

โสดเพราะอยากโสด

ทุกวันนี้ผู้คนจำนวนมาก (ไม่เฉพาะแค่คนรุ่นใหม่อย่างชาวมิลเลนเนียมเท่านั้น) ต่างเริ่มแต่งงานกันช้าลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังไม่ได้มองว่าการแต่งงานเป็นเป้าหมายสูงสุดของชีวิตอีกต่อไป จากรายงานของ Pew Research Center ระบุว่า ปัจจุบันประชากรผู้ใหญ่ที่อายุมากกว่าหรือเท่ากับ 50 ปี กว่า 25% เป็นโสดมาทั้งชีวิต

สอดคล้องกับรายงานของ Census Bureau ปี 2017 สำรวจความคิดเห็นชาวอเมริกันพบว่า 55% ไม่เชื่อว่าการแต่งงานและมีลูกคือบรรทัดฐานของการเป็นผู้ใหญ่ และหันมาให้ความสำคัญกับความก้าวหน้าในอาชีพการงานหรือการพัฒนาประสบการณ์ให้กับตัวเองแทน ไม่ว่าจะเป็นการเรียนหรือการท่องเที่ยว ประกอบกับในหลายพื้นที่ ๆ โดยเฉพาะในต่างจังหวัดหรือหัวเมืองต่าง ๆ ที่เริ่มมีความเป็นเมืองสูงขึ้น ผู้คนเริ่มหลีกเลี่ยงการใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่ชนบท ทั้งหมดเหล่านี้จึงกลายเป็นปัจจัยชั้นดีในการกระตุ้นให้เกิดประชากรครัวเรือนคนเดียวเพิ่มขึ้น

โสดไม่จำเป็นต้องเหงา

การใช้ชีวิตตัวคนเดียวไม่จำเป็นต้องผูกติดกับคำว่าเหงาเสมอไป ทั้งการอยู่ตัวคนเดียวอาจไม่ได้หมายความว่าอยู่คนเดียวจริง ๆ

จากสถิติทั่วโลกพบว่า ครัวเรือนที่มีสัตว์เลี้ยงเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะในฝั่งตะวันออก ยกตัวอย่างเช่น ประเทศฮ่องกงที่มีอัตราการเกิดต่ำ แต่งงานช้าและเข้าสู่สังคมสูงวัยเป็นที่เรียบร้อย แต่มีการประมาณการณ์ว่าครัวเรือนที่มีสัตว์เลี้ยงอาศัยอยู่ด้วยนั้นมีมากถึง 545,000 ครัวเรือน ยังไม่นับรวมจำนวนร้านค้าผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยงที่เปิดใหม่ใน 6 พื้นที่เมื่อปีที่ผ่านมา

เช่นเดียวกับตะวันตกที่มีความต้องการผลิตภัณฑ์หรูหรา เป็นมิตรต่อสัตว์และสิ่งแวดล้อมสำหรับสัตว์เลี้ยงของพวกเขาเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

รสนิยมการบริโภคของคนโสด

เมื่อพวกเขาใช้ชีวิตอยู่ตัวคนเดียวส่งผลให้พวกเขามีเวลาสำหรับตัวเองมากกว่ากลุ่มตรงข้าม ไลฟ์สไตล์ของพวกเขาจึงให้เวลากับการออกกำลังกายในยิม กินข้าว ดูหนัง ไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ และครอบครัว เหลือเฟือกว่าคนมีครอบครัว

จากการสำรวจของ Euromonitor ที่เผยว่าแนวโน้มการบริโภคของคนโสดนั้น ยกความสำคัญให้กับเรื่องความมั่นคงทางการเงินมากที่สุด เน้นความสะดวกสบายและสามารถจ่ายได้ไม่เกินงบประมาณตัวเอง ไม่นิยมสินค้าที่มักบ่งบอกชัดเจนว่า ‘ทนทาน’ ‘คุณภาพสูง’ ‘ทันสมัย’ ‘เป็นธรรมชาติ’ รวมทั้งไม่ค่อยมีรอยัลตี้ต่อแบรนด์ใด ๆ แต่จะให้ความสนใจกับสินค้าที่ ‘เรียบง่าย’ ‘อเนกประสงค์’ หรืออุปกรณ์นวัตกรรมเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกภายในบ้าน สรรสร้างพื้นที่ส่วนตัวให้เต็มไปด้วยความสุขของพวกเขาเอง

ดังนั้น สินค้าและบริการสำหรับตลาดกลุ่มนี้จึงต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยส่งเสริมให้พวกเขารู้สึกภาคภูมิใจกับตัวเอง เฉลิมฉลองกับความสำเร็จของไลฟ์สไตล์พวกเขา และนั่นหมายความในฐานะผู้ประกอบการหรือผู้ที่กำลังสนใจตลาดนี้ ยังมีเส้นทางหลายเส้นทางที่จะช่วยยกระดับความเป็นอยู่ของพวกเขาไปอีกขั้น

ที่มา: 10 Global Consumer Trends 2019 by Euromonitor