Co-Branding คือกระแสที่แบรนด์ใหญ่ หันมาเล่นในช่วงหลังนี้ แทนที่จะช่วงชิงผู้บริโภคกันเอง เปลี่ยนหลักคิดใหม่ให้เป็นการร่วมกัน ส่งมอบคุณค่าที่เพิ่มขึ้นให้กับผู้บริโภค การช่วยกันสร้างกิจกรรมทางการตลาดของแบรนด์ ยังช่วยเพิ่มฐานลูกค้าเดิมให้สูงขึ้น อีกทั้งยังเป็นการถ่ายทอดองค์ความรู้บางอย่างระหว่างแบรนด์ ยิ่งช่วยให้สินค้าและบริการพัฒนาขึ้น ในด้านการสื่อสารทางการตลาดสามารถช่วยเพิ่มช่องทาง เพิ่มพันธมิตร สื่อสารไปถึงกลุ่มลูกค้า ที่แตกต่างขึ้น ลดค่าใช้จ่ายในการสื่อสารประชาสัมพันธ์ ที่นี้เราลองมาดูถึงตัวอย่างการ Co-Branding ของแบรนด์ยักษ์ใหญ่ ที่ใช้กลยุทธ์นี้ในการทำการตลาดกันบ้างบางแบรนด์อาจไม่ได้หวังยอดขาย แต่เป็นเพียงการแสดงถึงการปรับเปลี่ยนมุมมองของแบรนด์ ที่มุ่งสู่ความเท่าทันโลกและผู้คนมากขึ้น
atap.google.com/jacquard/levi/
JACQUARD คือชื่อเทคโนโลยีด้ายแบบพิเศษที่สามารถนำไฟฟ้าได้ ที่ถูก Google พัฒนาขึ้น เมื่อรวมเข้ากับแบรนด์ยีนส์ระดับตำนานอย่าง Levi’s เกิดเป็นนวัตกรรมที่มีสไตล์ โดยเสื้อแจ๊คเก๊ตยีนส์รุ่นนี้ได้ผสานเอาเทคโนโลยีด้ายที่นำไฟฟ้าแบบพิเศษนี้เข้าไปในเนื้อผ้าด้วย จึงสามารถทำให้เสื้อตัวนี้สามารถสั่งงานคำสั่งผ่านแขนเสื้อ สู่สมาร์ทโฟน ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว และผสานอย่างกลมกลืนไปกับวิถีชีวิตกิจกรรมประจำวัน ตัวอย่างการใช้งานลักษณะหนึ่งคือ การลูบปลายแขนเสื้อเพื่อเปลี่ยนเพลงที่ฟังจากสมาร์ทโฟนของเรา
cr. apple.com/th/apple-watch-nike
Apple Watch Nike ได้รวม แอพ Nike Run club และแอพ Nike Training Club เข้ามาเป็นตัวช่วยในการออกกำลังกายและติดตามผล ยิ่งช่วยสร้างมูลค่าของตัวสินค้าและตัวแบรนด์ให้ทรงพลังและมีอิทธิพล ต่อ การตัดสินใจเลือกซื้อให้กับผู้บริโภค
eu.louisvuitton.com
Louis Vuitton และ BMW i สร้างชุดกระเป๋าที่ออกแบบมาสำหรับ BMW i8 ที่เพิ่งเปิดตัว ชุดกระเป๋าเดินทางและกระเป๋าเดินทางพิเศษจำนวน 4 ชิ้นได้รับการออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน ยังสามารถซ้อนทับกันอย่างพอดี ทำหน้าที่ปกป้องของภายใน การออกแบบรูปทรงกระเป๋าและการเลือกใช้วัสดุ ที่สะท้อนถึงความโฉบเฉี่ยวแต่หรูหรานั้น ยิ่งช่วยสะท้อนให้ทั้งสองแบรนด์ ตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่มี ได้อย่างมีระดับ
