ปัจจุบัน Trademark Hijacking กลายเป็นปัญหาสำคัญของผู้ประกอบการต่างชาติในประเทศจีน ซึ่งเป็นประเทศที่มีการยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้ามากที่สุดในโลกและพบปัญหา Trademark Hijacking มากที่สุดเช่นเดียวกัน
Trademark Hijacking คือ การจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตัดหน้าเจ้าของที่แท้จริง หรือการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าโดยไม่สุจริตเพื่อกันสิทธิของเจ้าของที่แท้จริง ซึ่งถือเป็นการละเมิดเครื่องหมายการค้ารูปแบบหนึ่ง โดยในปัจจุบันมีผู้ประกอบการไทยจำนวนไม่น้อยที่ประสบปัญหาดังกล่าวโดยเฉพาะผู้ประกอบการ SMEs ในอุตสาหกรรมอาหารแปรรูป เครื่องดื่ม และเครื่องสำอาง
ลักษณะของปัญหาอาจเกิดขึ้นได้หลายรูปแบบ เช่น
⊕ บริษัทรับจ้างผลิตในประเทศจีนนำเครื่องหมายการค้าของบริษัทไทยซึ่งเป็นผู้ว่าจ้างไปจดทะเบียนเป็นของตนเองและผลิตสินค้าภายใต้เครื่องหมายการค้าเดียวกันขายให้บุคคลอื่น
⊕ ตัวแทนจำหน่ายในประเทศจีนนำเครื่องหมายการค้าของบริษัทไทยไปจดทะเบียนไว้เป็นของตัวเอง เพื่อกันไม่ให้บริษัทไทยแต่งตั้งบุคคลอื่นเป็นตัวแทน หรือที่แย่กว่านั้นคือไปว่าจ้างบุคคลอื่นผลิตสินค้าเพื่อจำหน่ายโดยใช้เครื่องหมายการค้าเดียวกัน
⊕ บุคคลหรือบริษัทจีนซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับเจ้าของเครื่องหมายการค้าเลย แต่นำเครื่องหมายการค้าไปจดทะเบียนไว้เพื่อขายให้กับเจ้าของในราคาที่สูง และหากเจ้าของไม่ซื้อเครื่องหมายการค้าคืนก็จะถูกดำเนินคดีหากนำสินค้าเข้าไปจำหน่ายในประเทศจีน
ปัจจุบันมีผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SMEs จำนวนมากประสบปัญหาการถูกละเมิดเครื่องหมายการค้าในประเทศจีนในลักษณะนี้ ซึ่งสามารถสรุปสาเหตุหลักได้ดังนี้
⊕ การขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการคุ้มครองเครื่องหมายการค้า ผู้ประกอบการหลายรายเข้าใจว่าการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าไว้ในประเทศไทยแล้วจะได้รับการคุ้มครองทั่วโลก ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด
⊕ การไม่ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองเครื่องหมายการค้าของตนเอง
⊕ การส่งสินค้าไปจำหน่าย การจ้างโรงงานผลิต หรือการไปออกบูธแสดงสินค้าโดยไม่จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าไว้ในประเทศจีนก่อน
จากสาเหตุดังกล่าวข้างต้นจะเห็นได้ว่า ปัญหาสำคัญของการถูกละเมิดเครื่องหมายการค้าในประเทศจีนคือการ “ไม่จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าไว้ในประเทศจีน” ก่อนที่จะทำธุรกิจในประเทศจีน นอกจากนี้ การจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าเฉพาะในประเทศไทยนั้นยังไม่เพียงพอเนื่องจากได้รับความคุ้มครองเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น
วิธีการป้องกันปัญหา Trademark Hijacking ในประเทศจีนที่ดีที่สุดคือการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในประเทศจีนก่อนเสมอ เช่น ก่อนการส่งสินค้าไปจำหน่าย ก่อนการไปออกบูธแสดงสินค้า หรือแม้กระทั่งก่อนการเปิดตัวสินค้า ซึ่งเป็นวิธีการที่ง่าย รวดเร็ว และมีค่าใช้จ่ายที่น้อยมาก เมื่อเทียบกับการแก้ปัญหาหากเครื่องหมายการค้าถูกละเมิดแล้ว
อย่างไรก็ตาม หากท่านเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการที่ถูกละเมิดเครื่องหมายการค้าในลักษณะนี้แล้ว ท่านอาจมีแนวทางในการดำเนินการ ดังนี้
ปัญหา Trademark Hijacking เป็นปัญหาการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาลำดับต้น ๆ ที่ผู้ประกอบการไทยได้รับผลกระทบในประเทศจีน ซึ่งสร้างความเสียหายทางธุรกิจ หรือถูกบังคับให้ต้องสูญเสียเงินจำนวนมากเพื่อซื้อเครื่องหมายการค้าคืน หรือบางรายถึงขั้นต้องสูญเสียเครื่องหมายการค้าของตนเองไปและจำเป็นต้องรีแบรนด์ไปเลยก็มี
แม้กฎหมายจะเปิดโอกาสให้เจ้าของเครื่องหมายการค้าสามารถคัดค้านหรือเพิกถอนเพื่อพิสูจน์ความเป็นเจ้าของที่แท้จริงได้ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยระยะเวลา ภาระการพิสูจน์ และค่าใช้จ่ายที่สูงมาก ดังนั้น การวางแผนในการคุ้มครองเครื่องหมายการค้าในตลาดต่างประเทศจึงเป็นเรื่องสำคัญอันดับแรกที่ผู้ประกอบการไทยควรให้ความสำคัญเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
IDG หวังว่าข้อมูลทั้งหมดนี้ จะเป็นประโยชน์ในการวางแผน ให้กับผู้ประกอบการ หลาย ๆ ท่าน สำหรับการขอรับคุ้มครองเครื่องหมายการค้าในต่างประเทศ
หากท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม ทางทีมงาน IDG ยินดีที่จะให้คำปรึกษา และพร้อมที่จะช่วยท่านวางแผนเพื่อขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศต่อไปอย่างมีประสิทธิภาพ
โทร: 02-011-7161 ถึง 6
ฝ่ายเครื่องหมายการค้า 02-011-7161 Ext
ฝ่ายภายในประเทศ Ext 101,102
ฝ่ายต่างประเทศ Ext 104,105
ฝ่ายกฏหมาย Ext 103
E-Mail: tm@idgthailand.com
ปัจจุบัน Trademark Hijacking กลายเป็นปัญหาสำคัญของผู้ประกอบการต่างชาติในประเทศจีน ซึ่งเป็นประเทศที่มีการยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้ามากที่สุดในโลกและพบปัญหา Trademark Hijacking มากที่สุดเช่นเดียวกัน
Trademark Hijacking คือ การจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตัดหน้าเจ้าของที่แท้จริง หรือการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าโดยไม่สุจริตเพื่อกันสิทธิของเจ้าของที่แท้จริง ซึ่งถือเป็นการละเมิดเครื่องหมายการค้ารูปแบบหนึ่ง โดยในปัจจุบันมีผู้ประกอบการไทยจำนวนไม่น้อยที่ประสบปัญหาดังกล่าวโดยเฉพาะผู้ประกอบการ SMEs ในอุตสาหกรรมอาหารแปรรูป เครื่องดื่ม และเครื่องสำอาง
ลักษณะของปัญหาอาจเกิดขึ้นได้หลายรูปแบบ เช่น
⊕ บริษัทรับจ้างผลิตในประเทศจีนนำเครื่องหมายการค้าของบริษัทไทยซึ่งเป็นผู้ว่าจ้างไปจดทะเบียนเป็นของตนเองและผลิตสินค้าภายใต้เครื่องหมายการค้าเดียวกันขายให้บุคคลอื่น
⊕ ตัวแทนจำหน่ายในประเทศจีนนำเครื่องหมายการค้าของบริษัทไทยไปจดทะเบียนไว้เป็นของตัวเอง เพื่อกันไม่ให้บริษัทไทยแต่งตั้งบุคคลอื่นเป็นตัวแทน หรือที่แย่กว่านั้นคือไปว่าจ้างบุคคลอื่นผลิตสินค้าเพื่อจำหน่ายโดยใช้เครื่องหมายการค้าเดียวกัน
⊕ บุคคลหรือบริษัทจีนซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับเจ้าของเครื่องหมายการค้าเลย แต่นำเครื่องหมายการค้าไปจดทะเบียนไว้เพื่อขายให้กับเจ้าของในราคาที่สูง และหากเจ้าของไม่ซื้อเครื่องหมายการค้าคืนก็จะถูกดำเนินคดีหากนำสินค้าเข้าไปจำหน่ายในประเทศจีน
ปัจจุบันมีผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SMEs จำนวนมากประสบปัญหาการถูกละเมิดเครื่องหมายการค้าในประเทศจีนในลักษณะนี้ ซึ่งสามารถสรุปสาเหตุหลักได้ดังนี้
⊕ การขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการคุ้มครองเครื่องหมายการค้า ผู้ประกอบการหลายรายเข้าใจว่าการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าไว้ในประเทศไทยแล้วจะได้รับการคุ้มครองทั่วโลก ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด
⊕ การไม่ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองเครื่องหมายการค้าของตนเอง
⊕ การส่งสินค้าไปจำหน่าย การจ้างโรงงานผลิต หรือการไปออกบูธแสดงสินค้าโดยไม่จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าไว้ในประเทศจีนก่อน
จากสาเหตุดังกล่าวข้างต้นจะเห็นได้ว่า ปัญหาสำคัญของการถูกละเมิดเครื่องหมายการค้าในประเทศจีนคือการ “ไม่จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าไว้ในประเทศจีน” ก่อนที่จะทำธุรกิจในประเทศจีน นอกจากนี้ การจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าเฉพาะในประเทศไทยนั้นยังไม่เพียงพอเนื่องจากได้รับความคุ้มครองเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น
วิธีการป้องกันปัญหา Trademark Hijacking ในประเทศจีนที่ดีที่สุดคือการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในประเทศจีนก่อนเสมอ เช่น ก่อนการส่งสินค้าไปจำหน่าย ก่อนการไปออกบูธแสดงสินค้า หรือแม้กระทั่งก่อนการเปิดตัวสินค้า ซึ่งเป็นวิธีการที่ง่าย รวดเร็ว และมีค่าใช้จ่ายที่น้อยมาก เมื่อเทียบกับการแก้ปัญหาหากเครื่องหมายการค้าถูกละเมิดแล้ว
อย่างไรก็ตาม หากท่านเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการที่ถูกละเมิดเครื่องหมายการค้าในลักษณะนี้แล้ว ท่านอาจมีแนวทางในการดำเนินการ ดังนี้
ปัญหา Trademark Hijacking เป็นปัญหาการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาลำดับต้น ๆ ที่ผู้ประกอบการไทยได้รับผลกระทบในประเทศจีน ซึ่งสร้างความเสียหายทางธุรกิจ หรือถูกบังคับให้ต้องสูญเสียเงินจำนวนมากเพื่อซื้อเครื่องหมายการค้าคืน หรือบางรายถึงขั้นต้องสูญเสียเครื่องหมายการค้าของตนเองไปและจำเป็นต้องรีแบรนด์ไปเลยก็มี
แม้กฎหมายจะเปิดโอกาสให้เจ้าของเครื่องหมายการค้าสามารถคัดค้านหรือเพิกถอนเพื่อพิสูจน์ความเป็นเจ้าของที่แท้จริงได้ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยระยะเวลา ภาระการพิสูจน์ และค่าใช้จ่ายที่สูงมาก ดังนั้น การวางแผนในการคุ้มครองเครื่องหมายการค้าในตลาดต่างประเทศจึงเป็นเรื่องสำคัญอันดับแรกที่ผู้ประกอบการไทยควรให้ความสำคัญเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
IDG หวังว่าข้อมูลทั้งหมดนี้ จะเป็นประโยชน์ในการวางแผน ให้กับผู้ประกอบการ หลาย ๆ ท่าน สำหรับการขอรับคุ้มครองเครื่องหมายการค้าในต่างประเทศ
หากท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม ทางทีมงาน IDG ยินดีที่จะให้คำปรึกษา และพร้อมที่จะช่วยท่านวางแผนเพื่อขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศต่อไปอย่างมีประสิทธิภาพ
โทร: 02-011-7161 ถึง 6
ฝ่ายเครื่องหมายการค้า 02-011-7161 Ext
ฝ่ายภายในประเทศ Ext 101,102
ฝ่ายต่างประเทศ Ext 104,105
ฝ่ายกฏหมาย Ext 103
E-Mail: tm@idgthailand.com